สะพายกล้องเที่ยวสิกขิม #2.2: Gangtok One Day Trip ตอนจบ

หลังจากไปเที่ยวกันมา 5 ที่ (แบบโดนโกง) ในตอนที่แล้ว พี่ Taxi ผู้ฟันเราไปหลายดอกก็ขับรถพาเข้าในตัวเมืองกังต๊องแล้วแวะให้เราลงที่ Gangtok Ropeway ครับ

แม้ว่าตึกจะสภาพโทรมๆ แต่สภาพของกระเช้าก็พอโอเค (ที่ดาจีลิงโทรมกว่านี้เยอะ) แต่อย่าไปเทียบกับที่ฮ่องกงละกัน คนละคลาสสสส


พอเห็นกล้องส่องก็ทำเป็นเขิล


เด็กนี่น่ารักดี แม่ก็ให้ถ่ายด้วย

กระเช้าก็ไม่ได้สูงมากครับ บ้านเมืองก็ไม่ได้สวยอะไรมากนัก แต่ก็ได้เห็นภาพเมืองบนยอดเขาได้ชัดเจนดี มีวิวสวยๆ เยอะ (แต่ต้องแย่งมุมกะแขกถ่าย)

มีป้ายเตือนไว้ว่าจะมีหยุดให้ถ่ายรูปประมาณ 5 – 10 นาทีระหว่างทาง อย่าตกใจ ซึ่งจริงแม่งก็ตกใจกันทุกคนแหละ กลัวตกกันหมด :p



ลงมาแล้วก็ไปหนุมานต๊อก เป็นวัดฮินดูที่บูชาหนุมาน แต่จริงด้านในก็บูชาพระรามและนางสีดาครับ


เพื่อนบอกเหมือนหนุมานกระโดดเก็บเห็ดในมาริโอ้


ประตูวัด


ควักหัวใจออกมา เอาออกมาพิสูจน์…

ตอนที่ไปนี่วัดนี้ไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่ครับเพราะวิหารปิดซ่อมอยู่ เลยได้แต่เดินดูข้างนอกและวิหารเล็กๆ แทน

แล้วก็ไปพระคเณศต๊อกซึ่งเป็นที่สุดท้ายของ One Day Trip ซึ่งจริงๆ ต้องไป 10 ที่ แต่แม่งไม่ครบ 10 ที่ (สัด!!!)

ที่นี่ห้ามถ่ายรูปในวิหารครับ -*- แต่ก็ดีตรงเป็นจุดชมวิวของเมืองพอดี เลยถ่ายวิวเมืองกังต๊อกจากมุมสูง (สูงกว่ากระเช้านั่นอีก) มาแทน

แล้วก็จบโปรแกรมแต่เพียงเท่านี้ และจบการโดนแขกฟันครั้งแรกในอินเดีย (เชื่อเหอะว่ามีครั้งต่อไปแน่ๆ) แต่ก็ดีที่มันพาเราไปส่งที่ M.G. Marg แทนที่จะไปส่งที่ท่ารถตามที่คุยกันทีแรก

M.G. Marg เป็นถนนคนเดินเส้นที่คึกคักที่สุดในเมืองกังต๊อกครับ มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม บริษัททัวร์ เรียกได้ว่าอยากได้อะไรมาที่นี่ก็ต้องหาได้สักอย่างแหละ เพื่อนผม 3 คนรับอาสาเป็นตัวแทนไปหาโรงแรม ส่วนพวกผมอีก 4 คนก็รออยู่แถวๆ นี้แหละ


ร้านขายมือถือมีเยอะครับ

ระหว่างนั่งพักกับเดินถ่ายรูปก็ได้ยินเสียงคนไทยมาเป็นระยะๆ รวมไปถึงมองหน้าผ่านๆ ก็จะเห็นคนเกือบจะทุกเชื้อชาติเดินบนถนนเส้นนี้ เพราะว่าเป็นถนนที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเดินนี่เอง


ข้างทางมีทั้งบันไดลงและขึ้นไปอีกหลายชั้นครับ เพราะเมืองอยู่ตามแนวภูเขานั่นเอง

รอเพื่อนไปก็ลุ้นฝนไปเพราะมันตกมานิดหน่อยแล้วก็หยุด แล้วก็ตกใหม่อีกเรื่อยๆ รออยู่เกือบๆ ชั่วโมงแล้วเพื่อนก็ยังไม่มาซะที


เณรนี่สุดท้ายเดินมาขอเรื่ยไรเงินครับ ผมไม่ได้ให้ :p


ร้านขายยาคนเยอะมาก

แน่นอนว่าเพราะมันเป็นกังต๊อก ร้านรวงต่างๆ เลยปิดเร็วมากแม้มันจะเป็น “เย็นวันเสาร์”


เริ่มมืดล่ะ


ท้ายถนนครับ ลงไปเป็นตลาด เดินเลยไปก็เป็นโรงแรมกับร้านอาหาร ร้านค้า แต่รถเข้าได้ล่ะ

หลังจากรออยู่ 2 ชั่วโมงเพื่อนก็กลับมาครับ ที่หายไปนานเพราะมันไปจองทัวร์โปรแกรม North Sikkim, ทัวร์ทะเลสาปชางกู่ และจองโรงแรมสำหรับคืนนี้ไว้เรียบร้อยแล้ว ^^ ก็กลับมาแบกของไปโรงแรม Sun ‘n’ Snow ห้องกว้างขวาง สะอาดดี ไม่มีแอร์ (แต่อากาศก็หนาวโฮกๆ อยู่แล้ว) ไม่มีผ้าเช็ดตัวให้ก็ไม่เป็นไร มีของตัวเองอยู่แล้ว


อันนี้ฮา

เก็บของ ล้างหน้าล้างตาก็ไปกินข้าวกันครับ ออกมาร้านต่างๆ แม่มก็จะปิดกันหมดแล้ว -*- เลยไปร้านอาหารทิเบตที่เล็งไว้ คนเต็มร้านเลย รอโต๊ะพักใหญ่ๆ เลยล่ะ (การันตีความอร่อยได้มั้ง)


เนื้อเย็นครับ

อาหารทิเบตที่สั่งมารสชาติแปลกๆ ไม่เหมือนอาหารอินเดียเลยครับ แต่ก็อร่อยดีนะ ให้เยอะดี เพื่อนผมลองสั่งเบียร์สิกขิมหลายๆ อย่างกับลองสั่งน้ำอัดลมทีชื่อ Maaza มาด้วยเพราะเห็นขายกันเกร่อ ปรากฏว่าเป็นน้ำมะม่วง ไม่ว่าจะขวดสีอะไรก็น้ำมะม่วง แต่เห็นแบบนี้ของ Coke เชียวนะครับ


ไอ้เบียร์ Hit นี่สุดท้ายจะตามหลอกหลอนไปเกือบถึงวันท้ายๆ ของทริปเลยครับ

ระหว่างกินๆ อยู่ ก็มีไฟดับทั้งเมือง (ซึ่งเป็นเรื่องปกติ) โต๊ะผมเมาๆ อยู่ก็ร้องเพลง Happy Birthday To You ขึ้นมาแล้วทั้งร้านก็ร้องตามกันทั้งร้าน พอไฟมาก็หัวเราะกันใหญ่ 5555 ที่ฮาคือไฟดับ 2 ร้องก็ร้องมันทั้ง 2 รอบนั้นแหละ

หลังจากนั้นพวกเราก็ไปเที่ยวผับกันต่อ ยามหน้าผับเห็นแล้วทักเลยว่ายูเป็นคนไทยใช่ไหม ^^ ขึ้นไปแม่งเป็นผับที่เน้นขายอาหารไทยครับ -*- พวกเหล้า cocktail ต่างๆ ราคาก็พอๆ กับบ้านเรา (ซึ่งนับว่าสูงสำหรับบ้านเขา) ไอ้ที่แปลกที่สุดคือ cocktail ที่ชื่อScreaming Orgasm แต่แม่มเสือกหมด นั่งเมาท์ไป กินไป เจอหนังสือ Maxim version India ด้วยแต่พวกภาพ Sexy ถูกฉีกไปทั้งหน้า -*-

อยู่ในร้านถึง 4 ทุ่มจนร้านปิด (ผับปิด 4 ทุ่มมม) แล้วก็กลับโรงแรมครับ ซึ่งแม่มก็ล็อคประตูหน้าอีก ต้องกดกริ่งให้มันมาเปิด (ครั้งต่อไปที่มาพักที่นี่มันบ่นว่าพวกมึงกลับมาเร็วๆ หน่อยได้ไหม กูขี้เกียจตื่นมาเปิดประตูให้มึง) แล้วก็หลับเป็นตายเลยครับ

3 thoughts on “สะพายกล้องเที่ยวสิกขิม #2.2: Gangtok One Day Trip ตอนจบ

Leave a comment

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.