Update: เพิ่มโรงแรมที่นอนกับ blog ที่เที่ยวแต่ละวันแล้วครับ
ผมไปเที่ยวฮอกไกโด ของประเทศญี่ปุ่นมาเป็นเวลา 8 วัน ตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายนถึงวันที่ 1 กรกฏาคม ที่ผ่านมานี้เองครับ ไปเที่ยวแค่ภาคเหนือในจังหวัดฮอกไกโดอย่างเดียว ไม่ลงไปพวกโตเกียวอะไรเลย
- วันที่ 23 มิถุนายน
- บิน TG โปรหักหลังรอบแรก (มีโปรหักหลังรอบสอง ลดไปอีก 2 พันมั้ง) เครื่องออกตอนห้าทุ่ม 45 แต่ delay ไปเกือบๆ ครึ่งชั่วโมง
- วันที่ 24 มิถุนายน
- ถึงญี่ปุ่นที่สนามบิน New Chitose
- เที่ยว DORAEMON WAKUWAKU SKY PARK ในสนามบินนั่นแหละ
- นั่ง JR Hokkaido ไปเมือง Hakodate มีตื่นเต้นตรงขึ้นรถไฟผิดสายไปรอบนึง เลยได้โอกาสนั่ง Taxi ญี่ปุ่นกลับมาสถานีเดิม โดนไป 4870 เยนมั้ง
- เที่ยว Mt. Hakodate
- วันที่ 25 มิถุนายน
- กินข้าวเช้าที่ตลาดปลา Asaichi
- นั่ง JR ไปขี่จักรยานเที่ยวแถวๆ ทะเลสาปในสวน Onuma Koen
- นั่ง JR กลับมาเมือง Hakodate แล้วเที่ยวในเมืองด้วยรถราง
- ไปป้อม Goryokaku
- ย้อนกลับไปเที่ยวโบสถ์และวัดย่าน Mt. Hakodate
- ไป Motomachi Park
- ไป Kanemori Red Brick Warehouse
- วันที่ 26 มิถุนายน
- นั่ง JR ไปเมือง Noboribetsu
- เที่ยว Noboribetsu Date Jidaimura หรือสวนสนุกเอโดะ
- เที่ยวสวนหมี Noboribetsu Bear Park
- เที่ยว Noboribetsu Jigokudani หรือ Hell Valley
- กลับโรงแรม กินบุฟ \ w /
- แช่ออนเซ็นแบบ open air (ตอนห้าทุ่ม) \ w /
- วันที่ 27 มิถุนายน
- นั่ง JR ไปเมือง Kutchan เพื่อไปดูภูเขา Mount Yōtei แต่ฟ้าปิด เลยได้เดินเที่ยวในเมืองที่ไม่มีอะไรเลย ถ้าไม่ได้มาเที่ยวภูเขา -*-
- ไปเมือง Otaru
- เดินไปชมถนน slope ที่เห็นวิวทะเล (ไม่มีอะไรเลย ไม่ต้องไปหรอก)
- ไปถนนร้านค้า Sakaimachi ย่าน Marchen Square เจอหนูนา (ดารา) ที่ Otaru Orgel Museum ด้วยยยยยยย น่ารักม๊ากกกกกกกก
- กินซูชิที่ถนน Sushi Dori
- เดินเล่น คลอง Otaru
- วันที่ 28 มิถุนายน
- เดินเล่นแถวๆ คลอง Otaru ยามเช้า
- ไปกินไก่ทอดร้าน Naruto อร่อยมากกกกกก
- นั่ง JR ไปเมือง Sapporo
- ไป Sapporo Beer Museum และกินบุฟเนื้อเจงกิสข่านที่นั่น
- ไป Sapporo Clock Tower
- ไป Former Hokkaidō Government Office
- เดินเล่น Odori Park และขึ้น Sapporo TV Tower
- เดินเล่นย่าน Susukino พร้อมเดินหาตรอกราเมง
- วันที่ 29 มิถุนายน
- นั่ง JR ไป Furano
- นั่ง Twinkle Bus เที่ยว ^^
- ไป Furano Chese Factory
- ไปชมสวนดอกไม้ที่ ฟาร์มโทมิตะ
- ไป Goto Sumio Museum of Art
- Twinkle พาไปส่งที่เมือง Biei ลืมหมวกไว้ที่ร้านโซบะเมืองนี้ -*-
- นั่ง Twinkle (คันเดิม) เที่ยวเมือง Biei (ซื้อตั๋วแยกกันระหว่าง Furano กับ Biei นะ)
- ไปฟาร์มโทมิตะในเมือง Biei
- ไปโรงงาน Wine
- รถพากลับไปส่งที่ Furano แล้วนั่ง JR กลับ Sapporo
- กินข้าวเย็นที่ตรอกราเมง
- วันที่ 30 มิถุนายน
- ไปกินข้าวเช้าที่ตลาดปลา Nijo
- ไป Hokkaidō Shrine
- ไปเที่ยว ภูเขา Moiwa
- ไปโรงงาน Chocolate Shiroi Koibito Park
- Shopping ย่าน Sapporo Station และ Susukino
- กินบุฟปูที่ร้าน Nanda
- วันที่ 1 กรกฏาคม
- เดินทางไปสนามบิน New Chitose
- Shopping
- กลับไทย
การไปเที่ยวครั้งนี้เป็นการไปญี่ปุ่นรอบที่ 2 ของผมและเป็นการไปญี่ปุ่นแบบ Backpack (?) ครั้งแรกอีกด้วย ผมเคยไปทัวร์ญี่ปุ่นเมื่อ 6 ปีที่แล้ว การกลับไปญี่ปุ่นคราวนี้พบว่าคนญี่ปุ่นรับมือภาษาอังกฤษได้ดีขึ้นครับ ร้านค้าต่างๆ ตามสถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ฟัง Eng เราออกและพูดคำศัพท์ง่ายๆ ได้ แต่ต่อให้เขาฟังไม่รู้เรื่องเขาก็จะพาเราไปหาคนที่ฟังรู้เรื่องอยู่ดี เรียกได้ว่าเที่ยวได้ ผู้คนมีน้ำใจกับนักท่องเที่ยวดี ป้ายบอกทางต่างๆ ก็มีภาษาอังกฤษมากขึ้น เสียงประกาศในรถก็มีทั้งญี่ปุ่น จีน เกาหลีและภาษาอังกฤษ
ผมใช้บริการ pocket wifi ของ www.globaladvancedcomm.com ครับ เลือก package 42Mbps ก็โอดี สัญญาณครอบคลุมที่ไปประมาณ 70% เนตก็เร็วใช้ได้ ส่วนเหตุผลที่ไม่เลือก http://www.wifi-rental.jp/ ก็เพราะว่าเหมือนจะมี feedback ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ส่วน globaladvancedcomm นี่บริการดีมากครับ support ตอบคำถามดีและ clear มากๆ เลย สำหรับ free wifi ทั่วๆ ไปแทบจะไม่มีเลย มีแต่เข้ารหัสหมด ตามโรงแรมส่วนใหญ่ก็มี wifi แค่ที่ lobby
เมืองที่ไปเที่ยวทั้งหมดนอกจาก Sapporo นี่กริบมากครับ คือสัก 6 โมงเย็นถึง 1 ทุ่มก็ปิดร้านกันหมดแล้วทั้งร้านขายของและร้านข้าว เงียบมากกกก ส่วน Sapporo นี่ร้านค้าจะปิดประมาณ 3 ทุ่ม ส่วนร้านข้าวปิดดึกหน่อย สบายไป
การเดินทางส่วนใหญ่ใช้ JR Hokkaido Pass ครับ เพราะนั่ง JR ข้ามไปมาระหว่างเมืองบ่อย ส่วนการเดินทางในเมืองก็ใช้บริการสาธารณะเป็นหลัก พวกรถเมล์ รถรางเขาดีมากๆ ใช้ขึ้นข้างหลังแล้วลงข้างหน้า+จ่ายเงินข้างๆ คนขับ มีระบบตั๋วชัดเจน แม้จะไม่มีทอนเงินแต่มีเครื่องแลกเหรียญให้ สบายเลย รถไฟหรือรถบัสเขาก็ตรงเวลาดีมากๆ (ย้อนกลับมาคิดถึงรถไฟไทยแล้วให้แม่งลงนรกไปเหอะ) สำหรับเมือง Sapporo บัตร 1 day pass subway จะลด 50% ในวันเสาร์อาทิตย์และวันหยุดนะครับ สรุปแล้วขนส่วนมวลชนเขาเหนือกว่าเราประมาณ 100 – 200 ปีเลยล่ะ
เท่าที่สังเกตุมือถือที่คนญี่ปุ่นในฮอกไกโดใช้ ถ้าเป็นคนแก่ๆ ก็จะเห็นใช้มือถือฝาพับแบบปกติ ส่วนวัยรุ่นจะเห็นใช้ iPhone เสียเป็นส่วนมาก สำหรับกล้องก็เห็น DSLR ของ Canon, Nikon และ Pentax เยอะ (พวกนักท่องเที่ยวเห็นแต่ Nikon พวก D700 D800) ถ้าเป็น mirror less ก็เห็น NEX รุ่นเล็กๆ, Olympus Pen พวก PL/PM, Pana พวก GF2/GF3 ส่วน OMD นี่เจอ 2 คนเองมั๊ง
เรื่องอาหารการกินที่ญี่ปุ่นก็สุดยอดครับ ที่เมือง Otaru จะแพงกว่าเมืองอื่นหน่อย บุฟเฟ่เนื้อเจงกิสข่านที่ Sapporo นี่สุดยอดมาก ส่วนบุฟเฟ่ร้าน Nanda นี่อาจจะไม่คุ้มเพราะ 90 นาทีนี่หมดไปกับการแกะขาปูเสียเกือบชั่วโมงเลยมั้ง ส่วนตัวผมแนะนำให้เดินหาอาหารตามตลาดเช้าและร้านราเมงครับ “เด็ดมาก” เบียร์นี่แนะนำเบียร์ Sapporo เลยอร่อย นุ่มที่สุดที่เคยกินมาเลย
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เจอเป็นผู้เฒ่าผู้แก่ญี่ปุ่นเที่ยวญี่ปุ่นด้วยกันเองเสียส่วนใหญ่ครับ พวกทัวร์จีน ทัวร์เกาหลีใหญ่ๆ น้อยมาก มีเจอแกงค์ข้าราชการกทมไปทัวร์พอดีเหมือนกัน สำหรับสาวญี่ปุ่นก็อย่างที่รู้ๆ กันว่ายิ่งหนาวยิ่งกระโปรงสั้น ฮ่าๆๆๆ
อากาศช่วงที่ไปเป็นหน้าร้อนของฮอกไกโดเขา แต่อุณหภูมิก็ประมาณ 22 – 13 องศา ซึ่งก็กำลังดีจนไปถึงหนาวมากกกกกกกกเพราะลมแรง ถ้าใครไปช่วงนี้ก็เตรียมเสื้อคลุมไปด้วยสักตัวดีกว่าครับ
เจองานแต่งงานแบบชินโตพอดี
คนญี่ปุ่นมีเจิมรถด้วยจ้าาา
เรื่องคนญี่ปุ่นเท่าที่เห็นก็มีระเบียบวินัยสมคำร่ำลือ มีข้ามถนนแหกสัญญาณไฟบ้างแต่ก็น้อย ส่วนใหญ่คนญี่ปุ่นขี่จักรยานแม่บ้านกันเยอะครับ เกือบ 90% เลยด้วยซ้ำ แทบจะไม่เห็นจักรยานหรูๆ แบบบ้านเราเลย เขาขี่กันบนฟุตบาทนี่แหละ (กว้างกว่าเรา ไม่มีอะไรแกะกะ) และบนถนนก็มีเลนจักรยานเล็กๆ อยู่ด้วยเหมือนกัน พวกถังขยะอะไรก็มีแยกชนิดขยะชัดเจน แต่ถังขยะมีน้อยมากๆ จนบางทีผมต้องเก็บขยะไว้กับตัวอยู่เกือบครึ่งชั่วโมงกว่าจะหาที่ทิ้งเจอ
ไปรอบนี้มีโอกาสได้เข้าร้าน CD ด้วย พบว่าส่วนใหญ่จะแบ่งกลุ่ม CD เป็นศิลปินฝรั่ง, J Pop (รวม Rock ด้วย), K Pop (รวมไปถึงอัลบั้มญี่ปุ่นของศิลปินเกาหลี), Smap และ AKB48 แยกออกมาต่างหากเลย ^^
สรุปแล้วไปเที่ยวญี่ปุ่นรอบนี้สนุกมากๆ เพราะฮอกไกโดมีอะไรให้เที่ยวเยอะมาก (ที่ไม่ได้ไปก็เยอะ), อิ่มมากๆ และแพงมาก T^T ครับ
วัดที่มีป้ายrilakkuma วัดอะไรที่ไหนหรอคะ
Hokkaidō Shrine ที่เมือง Sapporo ครับ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆค่า ^^
ตั้งใจจะไปเที่ยวฮอคไคโดราวเดือน มิย-กค.นี้ครับ กำลังหาต้๋วเครื่องบินราคาโปรอยู่ครับ
ขอบคุณที่ให้ข้อมูล
ตั้งใจจะไปคนเดียวเดือนกุมภาปีหน้าคะ เป็นข้อมูลที่ดีมากคะ ขอบคุณคะ
ใช้กล้อง เลนส์อะไรครับ
รูปใน blog นี้ถ่ายจาก Note II ครับ
ร้านขายcdนี้อยู่ตรงไหนของฮอกไกโดคะ?
ตามห้าง หรือตามถนนทั่วๆ ไปเลยครับ
พอดีผมจะไป Hokkaido กลางเดือนพฤษภาคมนี้ครับ จะขออนุญาตตามรอยเส้นทางการท่องเที่ยว เลยอยากจะทราบว่าไปพักที่ไหน โรงแรมอะไรครับ ถ้ามีรายละเอียดเพิ่มเติมรบกวนส่งกลับมาที่ [email protected] ก็ได้นะครับ ขอบคุณมากครับ.
ขอตามรอยเส้นทางเหมือนกัน อยากได้รายละเอียดเรื่องที่พักโรงแรมอะไรราคาประมาณจะได้เตรียมงบได้ถูก. รบกวนส่งที่ [email protected]. จะไปกลาง. มิ.ย นี้ค่ะ. ขอบคุณมากค่ะ
รบกวนขอข้อมูลที่พัก
การจองหรือรายละเอียดต่างๆกับการเดินทางได้ไหมค่า
ขอบคุณมากๆค่า
[email protected]
โปรแกรมเดินทางละเอียดดีจัง ขอบคุณนะคะจะเก็บไว้เป็นข้อมูลสำหรับทริปของเราบ้าง
จะไปวันที่ 28 กค. 57 นี่แล้วคะ อยากจะสอบถามเรื่องการซื้อบัตร Twinkle bus หน่อยคะ พอดีลงเครื่อง 29 แล้วจะใช้บัตร 29 เลบได้ไหมคะ รบกวนตอบหน่อยคะ
ไม่แน่ใจครับ น่าจะได้นะครับ ซื้อที่เดียวกับ JR Pass
ขอที่พักโรงแรมและราคาประมาณด้วยคนสิค่ะ
ิ[email protected]
รบกวนขอข้อมูลที่พักและงบประมาณตลอดทริปด้วยค่ะ เห็นแล้วน่าตามรอยมาก
[email protected] ka
รบกวนขอข้อมูลที่พักและงบด้วยคนค่ะ
[email protected]
ขอบคุณมากนะคะ