BioShock Infinite: Burial at Sea Episode One

BioShock Infinite: Burial at Sea เป็น DLC ตัวที่ 2 ของ BioShock Infinite แต่ว่าเป็น Story DLC ตัวแรก แถมยังประกาศตั้งแต่ด้วยว่า “Episode One” แสดงว่าไม่จบใน DLC เดียวแน่ๆ

DLC นี้จะพาเรากลับไปสู่เมืองใต้น้ำ Rapture จาก BioShock 1 & 2 เรารับบทเป็นนักสืบเอกชนที่มีชื่อว่า DeWitt Booker ที่อยู่ๆ มีหญิงสาวลึกลับนาม Elizabeth มาว่าจ้างให้ตามหาเด็กผู้หญิงคนนึงที่ Booker ก็รู้จักและคิดไปว่าเธอได้ตายไปจากเมืองคนบ้าแห่งนี้ไปแล้ว

ภาคนี้ปรับปรุงระบบต่อสู้ของภาคหลักขึ้นมานิดหน่อยครับ จากที่เก็บอาวุธได้แค่ 2 อย่างก็เก็บได้เต็มที่เลยแต่เลือกสลับเร็วๆ ได้ทีละ 2 อย่างเหมือนเดิม เรามี vigor ซึ่งในเรื่องจะเรียกว่า plasmids ตามมิติของ Rapture ใหม่ขึ้นมา 1 อัน แต่อันเก่าๆ ก็มาไม่ครบ (เสียดาย อีกาอันโปรดผมไม่มาด้วย) ศัตรูในเรื่องก็โหดและกดดันมากขึ้นเพราะเหล่า splicer แม่งก็พวกคนบ้าดีๆ นี่เอง มันเลยโจมตีแรงและหลบเก่งกว่าศัตรูในภาคหลักอย่างเห็นได้ชัด กระสุนปืนและที่เติมพลังรวมถึงเงินก็น้อยสุดๆ เรียกได้ว่ากดดันกันสุดๆ ไปเลยสำหรับ game play โดยเฉพาะฉากเจอกับ Bigdaddy ที่พูดตรงๆ ว่าเจ๋งกว่าสู้กับ boss ทุกตัวในภาคหลักอีก

สิ่งที่ชอบสุดๆ คือบรรยากาศ “ความกดดันอันแสนบ้าคลั่ง” ของ Rapture มันเข้ากับ gameplay ที่จำกัดทรัพยากรและเนื้อเรื่องที่สุดตีนเป็นอย่างดี เล่นๆ ไปจะเจอเครื่องบันทึกเสียงเนื้อเรื่อง side story ให้ฟังเยอะ ซึ่งถ้าตามฟังจนครบเราจะได้รู้อีกว่าคนฝั่ง Rapture ก็รับรู้ตัวตนของคนฝั่ง Columbia เช่นกัน!!!

BioShock Infinite Burial at Sea Episode One Poster

ข้อเสียก็พอมีบ้างครับตรง vigor ก็ยังง่อยๆ เมื่อเทียบกับ plasimd ของแท้อยู่เช่นเดิม พวก sky hook กับรางที่ยัดๆ เข้ามาใส่แบบไม่เนียนเท่าไหร่ แถมบน XBOX ยังมี load ค้างบ่อย (ภาคหลักไม่เป็น) แต่พวกนี้ก็พอจะกล้อมแกล้มไปได้อ่ะนะ

สรุป Burial at Sea Episode One สนุกมากๆ ใครที่เล่น BioShock Infinite จบแล้วแนะนำให้ซื้อภาคนี้มาเล่นกันครับเพราะ Episode 2 จะออกปีนี้แล้ว ^^

My Best Gadgets of 2013

Timbuk 2 Classic Messenger Bag :Size S

  • ข้อดี
    • ความจุเยอะแม้จะเป็น size S
    • ช่องใส่ของเยอะและเป็นระเบียบ
    • สะพายง่าย ถนัด
  • ข้อเสีย
    • ไม่มีหูหิ้ว
    • ใส่ของเยอะๆ แล้วหนัก -*-

Kindle with Special Offer
Review

Panasonic Lumix GX7

Dell UltraSharp U2312HM 23″

  • ข้อดี
    • ให้ภาพที่ดีมากๆ
    • ปรับ parameter ได้เยอะ
  • ข้อเสีย
    • ไม่มี port HDMI

Bioshock Infinite

Steal Like an Artist

  • ข้อดี
    • ดีมาก ควรหามาอ่าน
    • เล่มแปลไทยถูกมาก

Hippo ProOne In-ear Headphones

  • ข้อดี
    • เสียงดีเหมือนกับหูฟัง ear-bud ที่ชอบ (งงไหม)
  • ข้อเสีย
    • วิธีใส่ลำบาก ต้องอ้อมหูก่อน

Deuter Aircontact 65 + 10 รุ่นเก่า

  • ข้อดี
    • จุเยอะโฮกกกกกก
    • ทนทาน
    • สะพายง่าย
    • ปรับได้เยอะ
  • ข้อเสีย
    • แพง

Panasonic Lumix GX7 Review

ผมซื้อ GX7 (wikipedia) และใช้งานมันทั้งถ่ายรูปเล่นๆ ในชีวิตประจำวัน, ออกทริปใหญ่ 1 ทริป, เอาไปถ่าย party กับเพื่อนๆ ฯลฯ มาร่วม 1 เดือนเต็มๆ เคยเขียนถึงมันมาแล้วสั้นๆ รอบนึง คราวนี้จะขอเขียนถึงมันแบบเต็มๆ จากการใช้งานมันมา 1 เดือนนะครับ

GX 7 นี่เป็นกล้องในระบบ Micro Four Thirds ถือเป็นหลานของ GF1 ที่ผมปลดระวางไปและเป็นลูกของ GX1 มันเป็นกล้องใน Line GX ที่เน้นตัวเล็กแต่ feature เยอะๆ และควบคุมกล้องแบบแมนนวลได้มากเช่นเดียวกับ Line G/GH ถ้าจะว่ากันตรงๆ แล้ว GX7 คือความพยายามครั้งที่ 2 ของ Panasonic ในการที่จะไล่ตาม Olympus ให้ทันหลังจากโดน OMD EM5 ทิ้งไปแบบไม่เห็นฝุ่น

อ้อ เกือบทุกรูปผมแต่งด้วย Lightroom 5.2/5.3 ตามปกตินิสัยของผมนะครับ รูปไหนทำแค่ย่อและ sharpen จะเขียนกำกับไว้ รีวิวนี้จะเทียบกับเจ้าแก่ GF1 แก่ของผมเป็นส่วนใหญ่ ไม่รู้จะเทียบกับ OMD EM5 ไปทำไมเพราะผมไม่มี ไม่คิดจะเทียบกับ EM1 เพราะมันสู้ไม่ได้อยู่แล้ว (เหมือนเอา EOS 100D ไปเทียบกับ D700 อ่ะ – กล้องมันคนละระดับ) และคงไม่ต้องพูดถึง Sony A7 เลย


vdo ถ่ายด้วย 20f/1.7 I manual focus
Continue reading “Panasonic Lumix GX7 Review”