Welcome to the land of Smile

The history they want us to forget, and they almost success. — me.

เวลาเราพูดถึง 6 ตุลา 1976 สิ่งแรกที่เรานึกออกคือภาพถ่ายที่ได้รางวัลพูลิตเซอร์ภาพนั้น

ชายคนหนึ่งถือเก้าอี้ฟาดไปยังชายหนุ่มอีกคนหนึ่งที่ถูกแขวนคอใต้ต้นมะขาม

เรารู้แค่ว่ารุ่งสางของวันนี้เมื่อ 40 ปีก่อนมีคนถูกฆ่ามากมายที่สนามหลวงต่อเนื่องไปถึงธรรมศาสตร์ คนที่ตายถูกฆ่าอย่างทารุณโหดร้าย แต่เราไม่ได้รู้อะไรมากไปกว่านั้น

ไม่รู้สิผมแค่รู้สึกว่า เขาเลือกให้เราจำอยู่แค่นั้น ไม่ให้เรารู้ไปมากกว่านั้น

จะว่าไปก็ไม่ใช่แค่ 6 ตุลาหรอก พฤษภา 2010 ก็ใช่ว่าจะต่างกัน ถึงแม้ว่าเราจะพอรู้อะไรมากกว่า 6 ตุลาอยู่บ้างก็ตาม

จะว่าไปก็ตลกดีนะ เหมือนอยากจะพูดอะไรที่มีสาระมากกว่านี้แต่อยู่ๆ ก็สมองเสื่อมนึกไม่ออกเสียแล้วว่าอยากจะพูดอะไร
— มิตรสหายท่านหนึ่ง

6 ตุลาฯ ความทรงจำที่บางคนอยากให้ลืม
16 ตุลา วันประวัติศาสตร์ ที่เราอาจเข้าใจผิด

plynoi's avatarBlog It Together

Massacre of 6 October 1976

The same smile always repeats in Thailand.
Massacre of 6 October 1976

View original post

ก็แค่ความหวัง

สิ่งที่ผมรู้สึกว่าชั่วร้ายที่สุดในการชุมนุมปี 53 คือผมเห็นเพื่อนๆ ที่รักของผมหลายคนแสดงอาการสำเร็จความใคร่บน Social Network เวลาเห็นความสูญเสียไม่ว่าจะชีวิตหรือทรัพย์สินของคนหรือสัญลักษณ์ของฝ่ายตรงข้าม

  • มันคือที่สุดของความชั่วร้ายที่ไม่เห็นว่าอีกฝ่ายเป็นมนุษย์เหมือนตัวเอง
  • มันคือความชั่วร้ายที่เห็นว่าทุกๆ การกระทำของตัวเองนั้น ทำเพราะอีกฝ่ายนั่นแหละที่ผิด ที่กูต้องทำแบบนี้ก็เพราะมันผิด

มันมีการกระทำหรือการตัดสินใจบางอย่างที่ยังไงมันก็คือความชั่วร้ายไม่ว่าสาเหตุของมันคืออะไรและเรากระทำต่อใครหรือเราทำต่ออะไร
หรือบางทีคนที่กระทำอาจจะไม่ได้คิดอะไร นอกจากเพราะมึงนั่นแหละผิด กูเลยต้องทำแบบนี้

ผมก็ได้แต่หวังว่าครั้งนี้มันจะไม่ไปถึงจุดเดียวกับปี 53

เราต้องโดนจับแขวนคอแล้วเอาเก้าอี้ฟาดกันอีกกี่ครั้ง ถึงจะคิดได้ว่าชีวิตนั้นมีค่ายิ่งนัก