Interstellar

เมื่อวานผมไปดู Interstellar (ชื่อไทย ทะยานดาวกู้โลก) มาครับ ก็จัด IMAX ให้มันเต็มๆ ที่ไปเลย เป็นหนังที่คนดูเต็มโรงแม้จะไปแถวเกือบล่างสุดที่ต้องแหงนคอดูก็ตาม

Interstellar เล่าเรื่องราวของโลกในอนาคตที่ผืนดินไม่อาจปลูกพืชได้อีกต่อไปแถมยังมีพายุฝุ่นถล่มเป็นระยะๆ พระเอกของเราต้องจากครอบครัวเพื่อเข้าร่วมภารกิจกอบกู้มนุษยชาติด้วยการขับยานอวกาศทะลุผ่านรูหนอนไปสำรวจดาวอื่นในอีกกาแลคซึ่นึงที่มีความเป็นไปได้ว่ามนุษย์จะอาศัยอยู่ได้ แต่ว่าเขาเองก็ไม่รู้ว่าจะได้กลับโลกมาหาครอบครัวอีกรึเปล่า

Interstellar Poster

สิ่งที่รู้สึกหลังจากดู Interstellar จบคือหนังสนุกมากกกกกกกกกกกก สะกดเราให้อึ้ง ทึ่ง มึน งง เหวอแดก ซาบซึ้งได้ตลอดทั้งเรื่องเลย ภาพและเสียงบน IMAX นี่อลังการ โหญ่โต เต็มตา สะใจมากจริงๆ โดยเฉพาะฉากในอวกาศและบนดาวอื่นทั้งหลาย ดนตรีในเรื่องก็ทำดีครับทั้งฉากกดดัน ฉากความหวังนี่บิ้วสุดๆ (ฉากอวกาศเงียบๆ แบบ Gravity นี่ได้อารมณ์มาก) นักแสดงทุกคนก็เล่นดีมาก Anne Hathaway โคตรพ่อโคตรแม่สวย เจ้าหุ่นที่ชื่อ TARS ก็กวนดีมาก ยิงมุขแต่ละทีฮากันทั้งโรงเลย

แต่ตัวหนังเองจะเรียกว่าสมบูรณ์แบบก็คงไม่ได้ครับ คือมีอะไรที่เหมือนกับข้ามแบบลวกๆ ไป งงๆ ไม่มีคำอธิบายอยู่เยอะมาก แต่โดยรวมหนังก็ยังดูสนุก ลุ้นโคตรๆ และทำให้เราอินกับความรู้สึกของตัวละครในเนื้อเรื่องตั้งแต่ต้นยันจบเรื่องครับ คือส่วนตัวผมก็ไม่ได้อะไรมากกับความไม่สมจริงทางวิทยาศาสตร์ของบทสักเท่าไหร่ (ก็มันหนังนี่หว่า) ดูสนุกอยู่ก็พอแล้ว

สรุป หนังคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์ที่ลงทุนไปดู (และจอง) IMAX ครับ

ป.ล. แนะนำให้อ่าน วิทยาศาสตร์กับ Interstellar [Spoil] และ What Interstellar Got Right and Wrong About Science ครับ
Continue reading “Interstellar”

Whiplash

Whiplash poster

Whiplash เล่าเรื่องราวของ Andrew Neyman ผู้ใฝ่ฝันจะเป็นมือกลองระดับโลก เขาหมั่นซ้อมจนกระทั่งไปเตะตา (และเข้าหู) Terence Fletcher ครู/ผู้คุมวงที่เจ๋งที่สุดในโรงเรียนเลยดึงเขามาเข้าวง เขารู้สึกภูมิใจมากจนกระทั่งเขาเผชิญการฝึกซ้อมและความกดดันระดับสุดตีนเพื่อก้าวไปสู่ความเป็นที่หนึ่ง

คำนิยามของหนังเรื่องนี้คือ “สวยงามและบ้าคลั่ง ประเสิรฐเลิศเลอ” ครับ หนังเรื่องนี้เป็นหนังดีที่ควรดู คุ้มค่าเงินสุดๆ นักแสดงทุกคนเล่นดีมากๆ โดยเฉพาะ J.K. Simmons เล่นได้ดีเหี้ยๆ เลย (นี่ชมนะ ไปดูเองแล้วจะเข้าใจ) หนังก็คาดเดาไม่ได้ มีอะไรให้คนดูอึ้งได้ทั้งเรื่องเลยครับ

หนังเรื่องนี้ดูแล้วอารมณ์เหมือนอ่านการ์ตูนเรื่อง Bakuman เลยครับ คือดูแล้วรู้สึกฮึกเหิมกับความพยายามฝึกซ้อมอย่างบ้าคลั่งและทุ่มเทให้กับบางสิ่งที่เราหวังที่จะประสบความสำเร็จ ถ้าไม่เก่งก็ต้องฝึกๆๆๆๆๆๆๆ จนกว่าจะเก่ง ความคิดว่าดีพอแล้วคือ Comfort Zone ที่อันตราย เราต้องพยายามที่ก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง (ออกจาก Comfort Zone) ที่สำคัญคืออย่าหลงไปกับความสำเร็จของตัวเองเด็ดขาด

สรุป: หนังดีมาก ควรไปดูอย่างยิ่ง

Spoil: ชื่อไทยควรเป็นศิษย์แสบกับครู…เอ่อ…เหี้ย

John Wick

John Wick เป็นหนังของเฮีย Keanu Reeves เรื่องแรกในรอบ 6 ปีที่ผมดูครับ หนังเล่าเรื่องราวของ John Wick นักฆ่าระดับพระกาฬที่ต้องหวนคืนสู่วงการอีกครั้งหลังจากวางมือไป 5 ปีเพราะมีลูกชายมาเฟียเสือกทะลึ่งไปฆ่าหมาที่เป็นของที่ระลึกจากเมียที่เสียไปของเขา

หนังเรื่องนี้เป็นหนัง action ที่ดูแบบไม่ต้องคิดมากครับ เฮียคีนูเท่สุดๆ ฉาก action ก็ดูเนี๊ยบๆ พระเอกเก่งเวอร์ดี แต่ข้อเสียที่ทำให้ผมดูแล้วรู้สึกเฉยๆ คือหนังมันจะโม้ก็โม้ไม่สุด จะบ้าก็บ้าไม่สุดน่ะครับ มันดูแล้วไม่ร้องเหยดๆ ไปแบบเรื่อง Taken (ใหม่หน่อย) หรือยิงแม่งเลย (เก่าหน่อย) มันก็เลยทำผมรู้สึกว่าหนังมันก็ไม่ได้เจ๋งแบบคะแนนรีวิวนี่หว่า สุดท้ายก็กลายเป็นผมลุ้นว่า John Wick จะฆ่า Theon Greyjoy ยังไงแทนซะงั้น -*-

สรุป: ผมเฉยๆ กับเรื่องนี้แฮะ