Everybody’s Gone to the Rapture

Everybody’s Gone to the Rapture (เรียก EGTR) เป็นเกม adventure ที่ลงแต่บน PS4 เท่านั้น (มีแต่ digital นั่นเอง) ผมเล่นจบไปสักพักแล้ว แต่เพิ่งมีโอกาสได้เขียนถึงมันครับ

EGTR ให้เราได้เดินสำรวจเมือง Yaughton เมืองชนบทแห่งหนึ่งในอังกฤษที่อยู่ๆ ผู้คนก็หายไปจากเมือง เราจะได้เดินไปฟังเสียงการสนทนาของผู้คนในเมืองนี้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

  • game play ให้ 1/10 เลยครับ คือมันไม่มีอะไรเลย เป็น walking simulator 100% เดินไปฟังเสียงอย่างเดียว ไม่มี quest ไม่มี puzzle ใดๆ มีมากที่สุดก็เปิดประตูกับเปิดวิทยุ แค่นี้แหละ
  • การเล่าเรื่องให้ 10/10 คือพอผ่านความงง+ง่วงไปได้เราจะติดหนึบกับเนื้อเรื่องมาก ยิ่งเล่นยิ่งได้รู้เรื่องราวของคนในหมู่บ้าน (คนนี้เกลียดคนนี้ คนนั้นเป็นชู้กับคนโน้น ทำนองนี้) ซึ่งมันสนุกกว่าเนื้อเรื่องหลักเสียอีก ยิ่งเล่นยิ่งอยากรู้
  • อิสระ 100% คือจะเล่นข้ามเนื้อเรื่องก็ได้ เล่นตามเนื้อเรื่อง (ตามลูกไฟ) ก็ได้ เดินไปไหนมาไหนก่อนก็ได้ ยังไงก็จบ
  • ตัวละครทุกตัว (ที่เราได้ยินแต่เสียง) มีหลายมิติ มีบุคลิกของตัวเอง
  • ภาพสวยอลังการโคตรๆ

ตอนแรกกะเล่นสัก 2 รอบ นี่เล่นไปได้ 1 รอบกะอีกเสี้ยวนึงก็เบื่อล่ะ – -”

God of War III Remastered

God of War III Remastered เป็นการ Remastered เกม God of War III จากเครื่อง PS3 มาสู่ PS4 แบบ 1080p+60fps ครับ

  • นี่เป็นเกมในตระกูล God of War เกมแรกที่ผมได้เล่น
  • ตัวเกมสนุกมากกกกกกก สะใจ เลือดสาด อำมหิต เล่นแล้วมีความรู้สึกว่าอยากจะเล่นต่ออีกสักหน่อยอยู่เสมอเมื่อเจอจุด save
  • Puzzle ในเกมไม่ยากไม่ง่ายจนเกินไปนัก มีสองสามอันที่ผมต้องเปิดเฉลยดู
  • ความยากของเกมก็ไม่ถือว่ายากจนอยากปาจอยทิ้ง หรือง่ายไปจนเล่นได้เพลิน เรียกได้ว่าท้าทายดี จุดที่ตายบ่อยส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องกระโดดไปตาม platform ต่างๆ นี่แหละ – –
  • สิ่งที่เจ๋งที่สุดคือฉาก Boss Fight ที่โคตรอลังการงานสร้างและสร้างสรรค์มากๆ เกือบทุกตัว
  • ข้อเสียที่ร้ายกาจคือฉาก Final Boss มันดูธรรมดาเกินไปอย่างไม่น่าเชื่อ คือความยากก็สมกับเป็น Final Boss นะ แต่ไอเดียกับความอลังมันไม่เจ๋งเท่าตัวอื่นๆ น่ะ

สรุป: สนุกมาก รู้สึกคุ้มดี

Dragon Age: Inquisition

Dragon Age: Inquisition เป็นหนึ่งใน 2 เกมแรกที่ผมซื้อมาพร้อม PS4 และเป็นเกมเดียวที่ผมทุ่มเทเล่นมันจนจบเป็นเกมแรกของเครื่องและของปีนี้ครับ (อีกเกมคือ Far Cry 4 วางทิ้งไว้หลังผมเริ่มเล่นเกมนี้)

  • ออกตัวก่อนว่าไม่เคยเล่นภาค 1-2 มาก่อนเลย ไม่รู้เนื้อเรื่องด้วย
  • ใช้เวลาเล่นตาม save จนจบเนื้อเรื่องประมาณ 65 ชั่วโมง ไม่นับไอ้ที่โหลดมาเล่นแล้วเล่นอีกเพื่อได้ story ที่ต้องการ 4 – 5 รอบ ถ้ารวมด้วยน่าจะถึง 80 ชั่วโมงมั้ง นี่เควสรองยังไม่หมดนะ เล่นต่อได้อีกยาว
  • เกมสนุกมากกกกกกกกกกกก ตอนแรกงงๆ แต่เล่นไปสักพักแม่งโคตรติดพันเลย
  • จุดที่ชอบที่สุดคือระบบตัดสินใจของเกม ทุกคำพูด ทุกทางเลือกที่เราตัดสินใจจะต้องมีทั้งคนชอบและคนไม่ชอบ แถมหลายๆ ครั้งยังไม่มีทางเลือกที่ win-win ด้วย ทุกอย่างมีผลกับความสัมพันธ์กับคนในทีมและเนื้อเรื่องหมดเลย เพราะไอ้ตรงนี้เลยต้องโหลดมาเล่นใหม่บ่อยมาก
  • เกมเป็นกึ่งๆ open world ที่มีพื้นที่และเควสรองให้เถลไถลเยอะมากกกกกกกกกกกกก คือเยอะจนมีโอกาสเผลอเล่นข้ามสูงมากทั้งๆ ที่มันมีผลกับเรื่องนิดหน่อยด้วย
  • จีบ Leliana ไม่ได้ ;____________;
  • ข้อเสียที่ร้ายกาจที่สุดคือเกมแทบจะไม่มี tutorial เลยครับ คือผมเล่นเกม WRPG กับเกมนี้เป็นเกมแรกแล้วแม่งงงมาก เกมแทบไม่บอกอะไรเลย ปล่อยเราเล่นไปอย่างเดียวจนจบเกมผมก็ยังไม่เข้าใจเลยว่าค่า stat หลายๆ ค่ามันคืออะไร
  • Multiplayer สนุกดี ออกแนว Capture the Flag หน่อยๆ คือเล่นตีศัตรูให้หมดในแต่ละห้องก่อนจะไปเจอบอส แต่เล่นไปนานๆ ก็น่าเบื่อ จริงๆ น่าจะเล่นแบบเอาเควสเนื้อเรื่องได้แบบ Diablo III มากกว่า
  • พลาดซื้อแบบแผ่นโซนเอเซียมา พวก DLC ต่างๆ เลยมาช้ากว่าชาวบ้านตั้งเป็นอาทิตย์เลย
  • กะว่าฉากจบจะอลังๆ แบบ Bioshock Infinite แต่เอาจริงก็ธรรมดาๆ อ่ะ ;___;

สรุป: สนุกมาก สนุกโคตรๆ