บันทึกความสิ้นหวังของชาวสยาม 2563

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ผมและเพื่อนพนันกันเล่นๆ ถึงผลคำตัดสินที่จะออกมาเมื่อวาน (21 กุมภาพันธ์ 2563) ว่าจะออกไปทางไหน ผมพนันว่า “ยุบ” แม้ว่าในใจจะไม่อยากให้ยุบก็ตาม

พอผลออกมาแบบนั้นจริงๆ ยอมรับว่ามันเป็นเรื่องคาดเดาได้แต่ก็ยังรู้สึกเศร้าใจและเฟลไปทั้งวัน

นี่พยายามเรียบเรียงความคิดอยู่ทั้งวันเผื่อจะมีมุมมองอะไรใหม่ๆ ไม่ซ้ำจากที่เคยเขียนไปแล้ว(entry 1, 2) แต่แม่งก็ไม่มีอะไรใหม่จริงๆ ไม่ว่าจะเรื่องผู้มีอำนาจหวาดกลัวปีศาจหน้าใหม่หน้านี้จนหาทางทำลายทุกวิถีทาง หรือชาวอนุรักษ์นิยมก็ยังกลัวคนกลุ่มนี้จนถึงกับยอมปิดทางข้างเดียวให้กับความสองมาตราฐานของประเทศ มันซ้ำเดิม มันวนลูปไปเรื่อยๆ ในกงล้อการเมืองที่เราไม่อาจหลุดจากมันได้สักที (หรือโดนดึงไว้วะ) ยิ่งคิดหาทางออกไม่เจอก็ยิ่งหมดหวังไปใหญ่


รูปจากงาน #ไม่ถอยไม่ทน (คนละงานกันแต่เห็นว่าเข้ากับบริบทดี) โดยมิตรสหายท่านหนึ่ง (ได้รับอนุญาติแล้ว)

แต่ท่ามกลางความมืดที่ไม่เห็นทางนี้ ผมยังเห็นกระแสสังคมส่วนหนึ่งที่ยังยึดมั่นในประชาธิปไตยและพร้อมจะสานต่ออุดมการณ์นั้นไม่ให้ดับไป เราจะจำความโกรธ ความสิ้นหวังนี้ไว้ เราจะไม่ลืมสิ่งที่พวกนั้นทำกับเรา

ทุกคนโกรธได้ จงโกรธ แต่อย่าหดหู่ ทำงานและเรียนต่อไป สะสมทุน เครือข่าย ความรู้ มีจังหวะก็ร่วมกิจกรรมตามกำลัง ทั้งในท้องถิ่นและนอกประเทศ สำคัญคือกินอาหารดีมีประโยชน์ ออกกำลังกาย รักษาสุขภาพ ดูแลตัวเองและเพื่อน เราต้องมีชีวิตอยู่ให้นาน อนาคตจะเป็นของเราได้ อย่าเพิ่งตายเร็ว

ไม่ได้จะบอกว่า “เวลาอยู่ข้างเรา” นะ คนรุ่นพฤษภาทมิฬเคยคิดงั้น ไม่มีแล้วรัฐประหาร เผลอปุ๊บเจอล้มเลย “คนรุ่นใหม่” มีทุกขั้วความคิด ไปช่วยอำนาจเดิมๆ เยอะแยะ

แค่จะบอกว่า ดูแลกัน สู้กันยาวๆ ประกันสังคม ประกันสุขภาพ สิทธิแรงงานไรงี้ ก็รักษาไว้ เพราะเป็นของที่จะประคับประคองเราไปด้วยกัน

มิตรสหายท่านหนึ่ง

For your reference:

บันทึกความกลัวของชาวสยาม 2562

ผมสังเกตุว่าเรากำลังกลัวคนคนหนึ่ง, กลัวว่าอุดมการณ์ของเขาจะทำลายโลกที่เรารู้จักไป เราปักใจเชื่อว่าเขา (และอุดมการณ์นั้น) เลว เขาคือปีศาจที่ต้องโดนฆ่าตัดตอนไม่ให้ขึ้นมามีอำนาจเป็นทักษิณคนที่สอง

ขณะเดียวกันมีอีกกลุ่มที่เราเห็นต่อหน้าว่ามันโกงแน่ๆ คอรัปชั่นชัดๆ แบบข่าวลงทุกวันแต่เราได้แต่ปลอบใจตัวเองว่าสักวันหนึ่งบาปกรรมจะตามทันหรือมันตายไปก็ต้องตกนรก เราอยู่เฉยๆ รอมันแพ้ภัยตัวเองไป นี่คือวิธีทางของเรา โลกภายนอกไม่เข้าใจหรอก

นี่คือโลกที่เราคุ้นเคยกันดี

ทำไมโลกที่ผมอยู่มันเลวร้ายแบบนี้วะ เราจะอยู่กันแบบนี้จริงๆ เหรอ


รูปจากงาน #ไม่ถอยไม่ทน วันนี้โดยมิตรสหายท่านหนึ่ง (ได้รับอนุญาติแล้ว)

ยังดีที่ประกายของอุดมการณ์นั้นได้ถูกจุดขึ้นมาแล้ว ผมหวังว่าเราจะเห็นแสงสว่างในโลกใบนี้

ปีศาจหน้าใหม่

“ผมเป็นปีศาจที่กาลเวลาได้สร้างขึ้นมาหลอกหลอนคนที่อยู่ในโลกเก่า ความคิดเก่า ทำให้เกิดความหวาดกลัว และไม่มีอะไรที่จะเป็นเครื่องปลอบใจท่านเหล่านี้ได้ เท่ากับไม่มีอะไรหยุดยั้งความรุดหน้าของกาลเวลาที่จะสร้างปีศาจเหล่านี้ให้มากขึ้นทุกที…” – สาย สีมา

จริงๆ คิดไว้ในหัวนานแล้ว แต่ไม่ได้เขียนสักทีจนมิตรสหายสายวิวาทชิงไปเขียนเมื่อสัปดาห์เดือนก่อน ก็เพิ่งมาเขียนนี่แหละ

สังเกตุมานานแล้วว่าฝั่งปีกขวา/อนุรักษ์นิยมนั้นหวาดกลัวพรรคการเมืองหน้าใหม่พรรคหนึ่งมาก ระดับที่เรียกได้ว่ากลัวมากกว่าทักษิณอีก กลัวจนผมรู้สึกว่าพวกเขาแสดงออกว่าถูก “คุกคาม” อย่างชัดเจนจากพรรคนั้น พรรคนั้นและหัวหน้าพรรคกลายเป็นปีศาจตนใหม่ต่อจากทักษิณไปเรียบร้อยแล้ว

ผมคิดว่าสิ่งที่ทำให้พวกเขากลัวมากกว่าปีศาจตัวเก่านั้นเพราะว่าปีศาจหน้าใหม่นี้ (และพรรคฝั่งซ้ายอีกหลายพรรคนั้นดันดังสุด) นั้นทำให้เกิดความตื่นตัวในเรื่อง “อุดมการณ์หัวก้าวหน้า” อย่างจริงจังในบรรดาผู้สนับสนุนและสาวก

  • มันเป็นอุดมการณ์มันทำเราเริ่มมองถึงปัญหาทางโครงสร้างที่มันบิดเบี้ยวและถูกปกปิดมายาวนาน
  • มันเป็นอุดมการณ์มันทำให้เราตระหนักว่าสิทธิเสรีภาพของเรานั้นถูกลิดรอนไปแค่ไหน และเริ่มตระหนักถึงสิทธิเสรีภาพของคนอื่นๆ ในสังคม
  • มันเป็นอุดมการณ์ที่ทำให้เรารู้สึกว่าไอ้สิ่งที่เราถูกหลอกหรือถูกสอนว่ามันไม่เป็นปัญหาแม่งเป็นปัญหา
  • มันเป็นอุดมการณ์ที่ทำให้เราตระหนึกถึง “โลกเสรี” รวมไปถึงความเป็นสากล ไม่ใช่คิดว่าเราพิเศษที่สุดไม่เหมือนใครอยู่คนเดียว

ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ฝั่งปีกขวา/อนุรักษ์นิยมไม่ว่าจะเฉดไหนจะจัดแค่ไหนนั้นยอมให้เกิดขึ้นในสังคมไม่ได้เด็ดขาด พวกเขากลัวสิ่งเหล่านี้มากจนต้องทำทุกอย่างเพื่อทำลายปีศาจตัวใหม่ตัวนี้ (ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม) ให้ได้ เพื่อรั้งทุกอย่างให้อยู่ในโลกเก่าๆ ที่พวกเขาเองก็ไม่ได้รู้คุณค่าของมันแต่อย่างใด

สิ่งที่น่าสนใจพวกเขาจะกำจัดปีศาจหน้าใหม่ (ไม่ว่าพรรคนี้หรือพรรคสายเดียวกันพรรคอื่นๆ) ไปได้ แต่ “อุดมการณ์” ที่ถูกจุดประกายนี้จะไม่มีวันตายและอยู่ต่อไป หรือแม้กระทั่งพรรคเหล่านี้จะถูกกาลเวลาเปลี่ยนแปลงไป (ไม่ก็แตกเพราะแม่งตีกันเอง) “อุดมการณ์” และความคิดเหล่านั้นก็จะถูกส่งต่อไปด้วยประชาชนหรือพรรคอื่นๆ ที่จะเกิดขึ้นมาใหม่

ยังไงวันที่ 24 นี้ก็เลือกพรรคที่ตัวเองชอบละกันครับ

plynoi's avatarBlog It Together

ผมเพิ่งอ่านนิยายเรื่อง “ปีศาจ” ของเสนีย์ เสาวพงศ์จบไปอาทิตย์ที่แล้ว

นิยายเรื่องนี้เล่าถึงเรื่องราวความรักต่างชนชั้นและการปะทะกันระหว่างคนจนกับนายทุนในยุคที่ประเทศไทยเพิ่งเปลี่ยนแปลงการปกครองและฟื้นตัวจากภัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ไม่นานนัก จุดเด่นของเรื่องนี้คือการปะทะกันระหว่างคนสองรุ่นและต่างความคิดในยุคเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ของสังคมไทย โดยมีคำถามที่สำคัญในเรื่องคือ “ใครคือปีศาจผู้อยู่เบื้องหลังความขัดแย้งนี้กันแน่?”


ภาพจากมติชน

View original post 48 more words