สะพายกล้องเที่ยวสิกขิม #1.2: นมัสเต Gangtok

ต่อจากตอนแรกนะครับ หลังจากเรามาถึงสนามบิน Bagdogra ซึ่งมีสภาพประมาณหมอชิตบ้านเรา เพื่อนที่เป็นคนนำทริปก็ไปติดต่อรถ Prepaid Taxi เพื่อไปยังเมือง Gangtok เมืองหลวงของรัฐสิกขิมครับ


สภาพภายนอกสนามบิน

ระหว่างที่รอผมก็ซื้อน้ำขวดใหญ่มาขวดนึง ราคา 25 รูปี ให้แบงค์ 50 ปี เขาบอกว่าไม่มีเหรียญทอน แล้วก็ให้แบงค์ 10 มาสองใบกับช็อคโกเลตแท่ง 5 รูปีมาอันนึง -*-

พอได้รถ ก็เดินตามคนขับที่มายืนรอรับหน้าสนามบินไป แต่ระหว่างรอที่รถมัน (เป็น SUV) มันก็คุยกับเพื่อนอะไรสักอย่าง แล้วก็บอกให้ไปรถเพื่อนมันแทน ติดแอร์นะนาย แต่เพื่อนแม่งคิดตังค์เพิ่ม -*- พอเราไม่เอาก็มีอีกคนเดินมาบอกว่าไปกับฉันดีกว่านาย รถใหญ่กว่า แต่ต้องจ่ายเพิ่มนะ พวกผมก็ไม่ยอม บอกกูจะไปรถคันที่กูจ่าย พวกมันก็ยึกยักๆ ไม่ยอมออกกัน จะให้ไปรถเพื่อนมันให้ได้ พวกผมก็ยืนตื้ออยู่หน้ารถนี่แหละ ยึกยัก-ดื้อกันอยู่เกือบๆ ครึ่งชั่วโมง ไอ้คันที่เราจ่ายตังค์ให้ถึงจะยอมไป (เหรี้ย นี่ขนาด prepaid นะเนี่ย)


รถคันนี้แหละ แม่ม

ก่อนจะออก มีเพื่อนมันอีกคนวิ่งมาตะโกนขอไปด้วย (มั้ง) แล้วก็เปิดประตูรถขึ้นมานั่งเลย พวกผมตะโกนลั่นรถเลยว่าไม่เอาเฟ้ย โนวๆๆๆๆๆ ไม่รับคนเพิ่ม เถียงมันอยู่พักนึง มันก็โอเคๆ แบบยักหัว แล้วเพื่อนมันก็ขึ้นไปนั่งบนหลังคารถแทน -*- มันบอกว่าไม่เป็นไร เด๋วเพื่อนมันก็ลงแล้ว (แสรดด) ซึ่งนั่งไปสัก 1 กิโล มันก็ลงตอนเราแวะปั้มเพื่อเติมน้ำมัน (ถ้าแม่งตกรถไปนี่พวกกูมีเสียวแน่ๆ)

ระหว่างทางจากเมือง Bagdogra ไป Gangtok ช่วงแรกๆ ที่เป็นพื้นราบอยู่ก็เป็นเมืองครับ แต่แบบเมืองที่มีแต่คนอาศัย ไม่มีแหล่งท่องเที่ยวอะไร อากาศร้อนๆ ถนน 2 เลน ฝุ่นตลบ รถติดพอประมาณให้ได้สัมผัสความเป็นอินตะละเดียแบบที่เราคาดหวัง

หลับๆ ตื่นๆ ไปสัก 2 ชั่วโมงกว่าๆ ก็เข้าเขตที่ต้องขึ้นเขา ซึ่งพี่คนขับก็เตือนว่าบางทีอาจจะมีหินถล่มแบบไม่คาดคิดแล้วรถติดได้นะ ซึ่งมันเตือนได้สักพักก็เจอหินถล่มจริงๆ แม่นฉิบหาย -*-

ระหว่างเจอทางถล่มก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากรอให้เจ้าหน้าที่มาซ่อมถนน ซึ่งก็ดูเหมือนจะเป็นเรื่องปกติที่หินจะถล่มลงมาทับถนน ระหว่างรอก็มีพ่อค้ามาขายของ รายแรกที่มาเป็นไอติมอินเดีย ผมลองชิมไปนิดๆ เนื่องจากกลัวท้องเสียตั้งแต่วันแรก รสชาติออกแนวขิงๆ ข่าๆ หน่อย แต่เพื่อนบอกว่าอร่อย ออกมาเดินเล่น ยืนเล่น รออยู่แถวนั้นสักครึ่งชั่วโมงเจ้าหน้าที่ก็เคลียร์ทางเสร็จ พวกเราก็ไปกันต่อ


Continue reading “สะพายกล้องเที่ยวสิกขิม #1.2: นมัสเต Gangtok”

สะพายกล้องเที่ยวสิกขิม #1: นมัสเต Kolkata

ตอนต้นๆ ปีประมาณเดือนกุมภามีเพื่อนโทรมาชวนไปเที่ยวอินเดีย ผมตอบตกลงไปก่อนแล้วก็นึกขึ้นได้ว่าอินเดียมันใหญ่นี่หว่าเลย เลยถามมันต่อว่าไปรัฐไหนวะ พอมันตอบว่ารัฐสิกขิมผมก็เออๆ ออๆ กับมันไปก่อน เพราะไม่รู้จักรัฐนี้เลยครับ

ผมไปในช่วงสงกรานต์ทีผ่านมานี้ครับ เป็นทริป backpack ที่ไปยาวนานที่สุดที่เคยไปคือ 10 วันตั้งแต่วันที่ 12 เมษายน – 21 เมษายน ไปกับเพื่อนๆ 7 คนด้วยกัน (รู้จักอยู่ 2 อีก 4 เพื่อนใหม่) นั่งสายการบิน Indigo ออกจากสุวรรณภูมิตอนตี 1 เป็นสายการบิน low cost ของอินเดียครับ แนวๆ AirAsia คือไม่มีอะไรให้เลย ต้องซื้อเอาหมด ผมซวยไปนั่งตรงประตูฉุกเฉิน ง่วงก็ง่วงแต่แอร์ก็ปลุกมาฟังว่าประตูใช้ยังไง พอผมทำหน้าง่วงๆ ก็ถามเสียงดังๆ ว่า Do you understand? ผมก็เลยอธิบายที่เค้าพูดไปให้ฟัง เขาถึงยอมให้ผมหลับเสียที

นั่งหลับๆ ตื่นๆ ท่ามกลางแขกจำนวนมหาศาล ไปถึงสนามบินเมือง โกลกาตา (Kolkata) หรือชื่อเก่า กัลกัตตา (Calcutta) ตอนตี 4 กว่าๆ กว่าจะผ่าน ตม ต่างๆ ก็ประมาณเกือบๆ จะตี 4 ครึ่งซึ่งนับว่าเร็วเกินคาดครับ รับกระเป๋าแล้วพบว่าฟ้ายังไม่สว่างเลย เลยตัดสินใจนอนต่อแถวๆ ทางออกนี่แหละ พี่ทหารไม่ว่าเลย (ที่นี่ไม่ใช้ยามครับ ใช้ทหารถืออาวุธครบมือเลย)

ตื่นประมาณ 6 โมง ล้างหน้าแปรงฟันแล้วเดินสำรวจสนามบิน Kolkata พบว่ามันเหมือสุวรรณภูมิยุคแรกๆ ครับ คือกว้าง ใหม่ ห้องน้ำสกปรก ห้องน้ำน้อย ไม่มีเห้อะไรขายเลย มีทหารเดินไปเดินมาคอยตรวจตลอดเวลา พอตื่นกันครบก็เดินไปบู๊ท prepaid taxi เพื่อเที่ยวเมืองกันก่อนในตอนเช้า เราบอกเขาว่าจะไปไหน เขาจะให้ราคามา (ต่อไม่ได้มั้ง) จ่ายแล้วจะมีใบเสร็จระบุว่าไปรถคันไหน เราก็เดินไปที่บู๊ท taxi ข้างนอกแล้วคนขับจะพาเราไปเอง กัน taxi ตุกติกได้ระดับหนึ่ง (แต่วันหลังก็เจอ)


ที่จะเจอแถวๆ prepaid taxi คือเด็กที่มั่วนิ่มเดินนำทางเราไปรถแล้วแม่งคิดตังค์ครับ ห่า ช่วยถือของก็ไม่ช่วย กูอ่านเลขทะเบียนออกเว้ยว่าคันไหน ถ้าไม่จ่ายคนขับแม่งไม่ออกรถด้วยนะเออ

ที่แรกที่เราจะไปคือวัดเจ้าแม่กาลี Dakshineswar Kali Temple ครับ อยู่นอกตัวเมือง ซึ่งเท่าที่ดูถนนหนทางในเมือง Kolkata แล้วก็คล้ายๆ บ้านเรา เพียงแต่สกปรกกว่า มั่วๆ กว่า เก่าและโทรมกว่าบ้านเราเยอะ เพื่อนที่เคยไปเมืองนิวเดลีบอกว่าเหมือนกันเลย

ยิ่งใกล้ถึงวัดคนก็ยิ่งเยอะครับ เห็นชาวบ้านเดินกันเพียบเลย ตอนแรก Taxi คันที่ผมนั่งจะจอดปากซอยแล้วให้เดินเอา เพื่อนผมเลยบอกว่ามึงขับตามเพื่อนมึงไปเลย ดูดิเพื่อนมึงขับเข้าวัดไปแล้ว (พูดเป็นภาษาอังกฤษนะ) ถึงได้ขับเข้ามาจอดแถวๆ วัดได้ พบว่าคนเยอะโคตรรรรรรรรรรรรรรรรร สงสัยวันที่ไป (วันที่ 12 เมษา) จะเป็นวันสำคัญอะไรบางอย่างซะแล้ว


คนมหาศาลครับ


แว๊บแรกที่ผมยกกล้องขึ้นมา พี่โบกมือยิ้มให้เลยครับ
Continue reading “สะพายกล้องเที่ยวสิกขิม #1: นมัสเต Kolkata”

สรุปทริปฮอกไกโด

Update: เพิ่มโรงแรมที่นอนกับ blog ที่เที่ยวแต่ละวันแล้วครับ

ผมไปเที่ยวฮอกไกโด ของประเทศญี่ปุ่นมาเป็นเวลา 8 วัน ตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายนถึงวันที่ 1 กรกฏาคม ที่ผ่านมานี้เองครับ ไปเที่ยวแค่ภาคเหนือในจังหวัดฮอกไกโดอย่างเดียว ไม่ลงไปพวกโตเกียวอะไรเลย

IMG_20130624_123636

IMG_20130627_120845

  • วันที่ 23 มิถุนายน
    • บิน TG โปรหักหลังรอบแรก (มีโปรหักหลังรอบสอง ลดไปอีก 2 พันมั้ง) เครื่องออกตอนห้าทุ่ม 45 แต่ delay ไปเกือบๆ ครึ่งชั่วโมง
  • วันที่ 24 มิถุนายน
    • ถึงญี่ปุ่นที่สนามบิน New Chitose
    • เที่ยว DORAEMON WAKUWAKU SKY PARK ในสนามบินนั่นแหละ
    • นั่ง JR Hokkaido ไปเมือง Hakodate มีตื่นเต้นตรงขึ้นรถไฟผิดสายไปรอบนึง เลยได้โอกาสนั่ง Taxi ญี่ปุ่นกลับมาสถานีเดิม โดนไป 4870 เยนมั้ง
    • เที่ยว Mt. Hakodate
  • วันที่ 25 มิถุนายน
    • กินข้าวเช้าที่ตลาดปลา Asaichi
    • นั่ง JR ไปขี่จักรยานเที่ยวแถวๆ ทะเลสาปในสวน Onuma Koen
    • นั่ง JR กลับมาเมือง Hakodate แล้วเที่ยวในเมืองด้วยรถราง
    • ไปป้อม Goryokaku
    • ย้อนกลับไปเที่ยวโบสถ์และวัดย่าน Mt. Hakodate
    • ไป Motomachi Park
    • ไป Kanemori Red Brick Warehouse
  • วันที่ 26 มิถุนายน
    • นั่ง JR ไปเมือง Noboribetsu
    • เที่ยว Noboribetsu Date Jidaimura หรือสวนสนุกเอโดะ
    • เที่ยวสวนหมี Noboribetsu Bear Park
    • เที่ยว Noboribetsu Jigokudani หรือ Hell Valley
    • กลับโรงแรม กินบุฟ \ w /
    • แช่ออนเซ็นแบบ open air (ตอนห้าทุ่ม) \ w /
  • วันที่ 27 มิถุนายน
    • นั่ง JR ไปเมือง Kutchan เพื่อไปดูภูเขา Mount Yōtei แต่ฟ้าปิด เลยได้เดินเที่ยวในเมืองที่ไม่มีอะไรเลย ถ้าไม่ได้มาเที่ยวภูเขา -*-
    • ไปเมือง Otaru
    • เดินไปชมถนน slope ที่เห็นวิวทะเล (ไม่มีอะไรเลย ไม่ต้องไปหรอก)
    • ไปถนนร้านค้า Sakaimachi ย่าน Marchen Square เจอหนูนา (ดารา) ที่ Otaru Orgel Museum ด้วยยยยยยย น่ารักม๊ากกกกกกกก
    • กินซูชิที่ถนน Sushi Dori
    • เดินเล่น คลอง Otaru
  • วันที่ 28 มิถุนายน
  • วันที่ 29 มิถุนายน
    • นั่ง JR ไป Furano
    • นั่ง Twinkle Bus เที่ยว ^^
    • ไป Furano Chese Factory
    • ไปชมสวนดอกไม้ที่ ฟาร์มโทมิตะ
    • ไป Goto Sumio Museum of Art
    • Twinkle พาไปส่งที่เมือง Biei ลืมหมวกไว้ที่ร้านโซบะเมืองนี้ -*-
    • นั่ง Twinkle (คันเดิม) เที่ยวเมือง Biei (ซื้อตั๋วแยกกันระหว่าง Furano กับ Biei นะ)
    • ไปฟาร์มโทมิตะในเมือง Biei
    • ไปโรงงาน Wine
    • รถพากลับไปส่งที่ Furano แล้วนั่ง JR กลับ Sapporo
    • กินข้าวเย็นที่ตรอกราเมง
  • วันที่ 30 มิถุนายน
  • วันที่ 1 กรกฏาคม
    • เดินทางไปสนามบิน New Chitose
    • Shopping
    • กลับไทย

Continue reading “สรุปทริปฮอกไกโด”