Doctor Strange in the Multiverse of Madness

Doctor Strange in the Multiverse of Madness (ขอเรียกสั้นๆ ว่า Doctor Strange 2 หรือหมอแปลก 2) เป็นภาคต่อของ Doctor Strange และเป็นภาพยนต์ลำดับที่ 28 ของจักรวาล MCU (เรื่องที่ 5 ของ Phase 4) นอกจากนี้ยังเป็นผลงานในค่าย Marvel Studios เรื่องของ Sam Raimi ผู้กำกับชื่อดังเจ้าของผลงานระดับตำนานอย่าง Evil Dead, Darkman และไตรภาค Spider-Man (Tobey Maquire) ครับ

ภาพประกอบจาก page Marvel Studios

หมอแปลก 2 เล่าเรื่องราวต่อจาก Spider-Man: No Way Home เมื่อ Doctor Strange ต้องช่วยเหลือ America Chavez สาวน้อยปริศนาจากการถูกไล่ล่าจากสัตว์ประหลาดปริศนาที่มาจาก Mutiverse (พหุจักรวาล) เขาและ หว่อง จึงไปขอความช่วยเหลือจาก Wanda Maximoff จอมเวทย์ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดที่พวกเขารู้จักครับ

ผมไปดูหนังเรื่องนี้ท่ามกลางกระแสชอบและไม่ชอบปนๆ กัน ผมพบว่าหนังเรื่องนี้เหมือนกับ Eternals คือมันเป็นหนังที่มีลายเซ็นต์ของผู้กำกับชัดเจนมากๆ ในกรณีของ Chloé Zhao ซึ่งเป็นผู้กำกับสายหนังรางวัล หนัง drama ซึ่งก็ส่งผลมาถึงตัวหนัง Eternals ด้วย ส่วนเฮีย Sam นี่ก็รู้กันอยู่ว่าแกถนัดหนังสยองขวัญ-dark comedy แบบจัดจ้าน วิ่งสู้ฟัด (ถ้าจะเถียงว่าแกกำกับ Spider-man แต่ถ้าดูดีๆ พบว่ามีองค์ประกอบที่แกได้จากหนังสยองขวัญเยอะอยู่ ลองนึกถึงฉาก Doctor Octopus ในห้องผ่าตัดสิ) ซึ่งสิ่งนี้กลายเป็นธีมหลักของหมอแปลก 2 ไปโดยปริยาย

Doctor Strange in the Multiverse of Madness เป็นหนังที่เล่าอะไรมากไม่ได้เพราะเด๋ว Spoil แล้วจะหมดอารมณ์เลย (หมดหนักกว่า No Way Home อีก) แต่มันเป็นหนังที่โคตรจะ Sam Raimi สุดๆ มีทุกมุขความสยอง ความรุนแรงและดิบเถื่อนเท่าที่เรท PG-13 จะไปได้ คาดเดาไม่ได้ ความฉิบหายวายป่วงต่างๆ มุขตลกแสบๆ มันเป็นหนัง MCU มีองค์ประกอบทั้งเรื่องฉาก การเดินเรื่อง มุมกล้องและ CG ที่ตั้งใจจะห่วยให้ความรู้สึกเหมือนกับตอนดู Evil Dead ทั้ง 3 ภาค หนังยาวสองชั่วโมงแต่ไม่มีจังหวะพักหรือจังหวะเนือยเลยครับ ซัดกันยับตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง แต่จังหวะการเดินเรื่องและธีมแบบนี้นี่แหละที่แฟนๆ MCU หรือคนที่ดูหนังแกแค่ Spider-Man อาจจะไม่ชินกัน

แต่ในแง่ความเป็นหนัง Superhero MCU มันก็ยังมีองค์ประกอบอยู่ครบถ้วนนะ ทั้งความระเบิดตูมตามสะใจ เนื้อเรื่องที่สานต่อเข้ากับจักรวาลทั้งหนังและ Series ต่างๆ มากมายและยังปูทางไปความเป็นไปได้อีกๆ อีกมากมาย Easter Eggs ทั้งฝั่ง MCU และของหนังเฮียแกเองเพียบ แค่เล่าเรื่องในธีมและจังหวะที่ต่างจากหนัง MCU เรื่องอื่นเท่านั้นเอง นักแสดงก็เล่นดีโดยเฉพาะน้อง Xochitl Gomez ผู้รับบท America Chavez ที่มีสเน่ห์น่ารักมาก และที่เล่นดีที่สุดขอยกให้ Elizabeth Olsen จาก Wanda Vision ที่ดีอยู่แล้วเรื่องนี้เล่นดีขึ้นอีกครับ

แต่ด้วยความเป็นหนัง MCU ของมันก็ทำให้เกิดข้อเสียใหญ่ๆ มากที่สุดเรื่องในจักรวาล MCU เลยคือมันเป็นเรื่องที่ต้องดูทั้งหนังและ Series เรื่องก่อนหน้าอย่าง WandaVision, Loki และ What If…? มาก่อนเท่านั้นถึงจะเข้าใจทุกอย่าง เพราะเนื้อเรื่องไม่ได้อธิบายอะไรเลย ถ้าเป็นเรื่องอื่นๆ (ไม่นับเรื่องรวม) แค่ดูหนังตัวละครนี้ภาคก่อนหน้าก็พอ

อีกอย่างคือหนัง MCU มันจำกัดตัวเองที่เรท PG-13 ครับ พวกความรุนแรง ความสยองขวัญในเรื่องมันเลยดูกั๊กๆ ไปไม่สุดกับสิ่งที่เนื้อเรื่องและบทมันปูไว้ ถ้าหนังเรื่องนี้ไปเรทสูงกว่านี้ ยอมเลือดสาดหรือสยองสั่นประสาทกว่านี้ รับรองมันฉิบหายกว่านี้แน่นอน

ภาพประกอบจาก page Marvel Studios

สำหรับผมแล้วนี่คือหนัง Sam Raimi และ MCU แบบ “Madness” ที่ผมคาดหวังครับ เดือด บ้า ฮา สยองเกรดบีแบบโคตรสะใจเลย ปั่นสุดๆ

คำแนะนำถึงเรื่องที่ควรดูก่อน
– ไตรภาค Evil Dead ถ้าหาไม่ได้แนะนำ Drag Me to Hell
– Doctor Strange
– Loki
– What If…? (คิดถึง Strange Supreme จุง)

ป.ล.
– มี 2 end credit
– มี เฮีย Bruce Campbell เล่นด้วย หากันเอานะ