สะพายกล้องเที่ยวทิพย์เวียดนาม: ตอนที่ 1.1 สวัสดีโฮจิมินห์

ต่อจากตอนที่แล้วนะครับ ผมกับเพื่อนนั่งเครื่องบินของ Qatar Airways มาถึงสนามบิน Tan Son Nhat International Airport เมือง Ho Chi Mihn ประเทศเวียดนามกันแล้ว

ขอท้าวความหน่อยว่าทำไมเราถึงนั่งจาก Paris ไปเปลี่ยนเครื่องที่ Doha มาลงเวียดนามแทนที่จะกลับไทยเลย คือพวกเราเดินทางด้วยโปร 1 หมื่นบาทของ Qatar Airways ที่มีเงื่อนไขว่าขาไปจะบินจากไหนก็ได้ แต่ขากลับต้องบินจาก Paris ไปลงที่ Ho Chi Minh เท่านั้น ผมกับเพื่อนเลยตัดสินใจว่าจะอยู่เที่ยวกันที่เวียดนามก่อนสัก 1 คืนแล้วค่อยนั่ง Nok Air กลับไทย ถือเป็นการปรับเวลาไปด้วยในตัว

บรรยากาศสนามบิน Tan Son Nhat ก็คล้ายๆ บ้านเราน่ะครับ คิว ตม ขาเข้าก็ยาวมากไม่แพ้กันเลย คนเยอะมากๆ ไม่แพ้กันด้วยครับ

การเดินทางจากสนามบินนั้นใช้ Grab เอาครับ App ไทย Account ไทยใช้ได้เลย ราคาถูกโคตรๆ สะดวกด้วย พวกเรานั่ง Grab จากสนามบินไปที่พัก Airbnb (Chiuchiustay – The Zoo Neighbor) บรรยากาศบนท้องถนนเขาก็น่ากลัวตามที่ร่ำลือกันนั่นแหละ

ย่านที่พักก็อยู่แถวๆ ย่านชุมชนที่ปากซอยเป็นร้านอาหารกึ่งผับ ส่วนในซอยก็เงียบสงบดีครับ เข้าไปลึกหน่อยแต่ปลอดภัย บ้านถึงดูภายนอกจะเล็กๆ แต่ด้านในก็สะอาดสะอ้าน มี Wifi ห้องน้ำมีสายฉีดก้น (สักที!!!) พวกเราอาบน้ำ เอาของยัดตู้เย็นแล้วก็นอนพักยาวๆ จนเย็นเลย

พักสายตาสักพักใหญ่ๆ ก็ได้เวลาออกไปหาของกิน ตอนเดินออกไปพบว่าแถวๆ นั้นมีโรงเรียนอยู่ติดกันหลายโรงเรียนเลยครับ พวกของกินหน้าโรงเรียนดูน่าอร่อยดี มานึกย้อนดูก็เสียดายที่ไม่ได้ลองซื้อดู

จะข้ามถนนก็อันตราย น่ากลัว แต่มีคนบอกว่าข้ามๆ ไปเถอะ เขาอ้อมเราเอง ไม่พุ่งทับไปเลยแบบไทย

พวกเราเดินไปกินข้าวเย็นที่ร้าน Quan Bui Restaurant กันครับ อยู่ไกลจากที่พักพอดู แต่ก็เดินสบายๆ ชิลๆ บรรยากาศให้ความรู้สึกคุ้นเคยดี ไปถึงร้านแล้วสั่งมา 5 อย่างเลยให้สมกับที่อดอยากอาหารรสแบบเอเซียมานาน

บรรยากาศในร้าน ที่เห็นกินข้าวอยู่นั่นพนักงานนะครับ

ปอเปี๊ยะ

ร้านมีเมนูภาษาอังกฤษ พนักงานก็พูดอังกฤษได้ สบายล่ะครับ อาหารที่สั่งมาอร่อยมากๆ ทุกอย่างเลย กินกันสะใจสุดๆ

จำไม่ได้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่อร่อยจริง

กินเสร็จเช็คบิลหมดไปล้านด่อง สบายตัว ก็เดินเล่นในเมืองต่อ ให้บรรยากาศเหมือนเดินถนนเส้นสีลมบ้านเรา ทั้งอากาศร้อนๆ ผู้คน แสงสี แต่ว่าฟุตบาทเขาใหญ่กว่าบ้านเราเยอะนะ

แม่ค้าที่นี่ไปไหนก็เรียก Grab ครับ

ร้านอาหารก็แนวๆ บ้านเรา

เอกลักษณ์เขาเลย โต๊ะเตี้ยๆ

พวกเราเดินไปจนถึง Ho Chi Minh City Hall แต่มันปิดแล้ว ข้ามถนนไปไม่ได้เพราะรถวิ่งเร็วมาก (ถ้าเป็นคนท้องถิ่นคงชิลๆ) ก็เลยถ่ายรูปจากฝั่งตรงข้ามมาแทน

สามล้อบ้านเขา

อาคารสวยๆ แบบนี้เยอะ

แผงหนังสือขายกันแบบนี้แหละ

บรรยากาศท้องถนนครับ

พวกเราเดินผ่านโซนร้านอาหาร เจอร้านอาหารไทย (หรือแบรนด์ที่มีในไทย) มาเปิดด้วย อยู่เวิ้งใกล้ๆ ติดๆ กันเลย

MK

นี่ก็หลายเจ้า

จริงๆ พวกเราตั้งใจจะมาดู Notre-Dame Cathedral Basilica of Saigon ที่เป็นมหาวิหารประจำเมือง แต่ว่ามันปิดซ่อมอยู่ เสียดายจริง

ยังดีที่ Saigon Central Post Office ที่อยู่ข้างๆ สวยมากระดับมีทัวร์มาลงอ่ะ

ที่ทำการไปรษณีย์ไซง่อนนี่สร้างมาตั้งแต่ปี 1886 เลย ออกแบบโดย Alfred Foulhoux (แต่ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นงานของ Gustave Eiffel บ่อยๆ)

ด้านใน วิวสวย

ก็ขอจบครึ่งวันแรกของทริปสั้นเวียดนามไว้เท่านี้นะครับ เท่าที่จดไว้คือไม่ได้ Jet lag เท่าไหร่ก็เลยเดินสบายๆ คล้ายบ้านเราเลย ถือว่าแก้อาการหายคิดถึงอาหารและบรรยากาศแบบเอเซียที่เกิดขึ้นตอนเที่ยวยุโรปได้ดี ตอนหน้าจะพาไปเดินเล่น “ลานคนเมือง” ของเวียดนามกันครับ

ดูหน้ายาม

Link:
– สรุปทริป Netherlands, Belgium, France, Vietnam 2018