สะพายกล้องเที่ยวทิพย์ยุโรป: ตอนที่ 12 บ๊ายบายฝรั่งเศส ลาก่อนยุโรป

ต่อจากตอนที่แล้วนะครับ วันนี้เป็นวันสุดท้ายของพวกผมที่ฝรั่งเศส (และยุโรป) แล้วล่ะ เรามีเวลาแค่ช่วงเช้าเพราะตอนบ่ายต้องรีบไปขึ้นเครื่องกลับ Doha แล้ว เช้านั้นเลยตัดสินใจไปกินอาหารเช้าแบบฝรั่งเศสข้างนอกโรงแรมดู ทีแรกเกือบจะลงไปกินร้านโรงแรมแล้ว ฮ่าๆๆๆ

เช้าวันนั้น พยากรณ์อากาศบอกว่าวันนี้อากาศดี สมเป็นวันกลับจริงๆ

พวกเราเลือกร้าน Le Petit Carillon ที่อยู่ไม่ไกลจากโรงแรมนักมา ราคาไม่แพง ร้านบ้านๆ บริการเป็นกันเองดีครับ

สั่งชุดอาหารเช้าทั่วไปนี่แหละ อร่อย ได้บรรยากาศดี

กาแฟดี

กินข้าวเช้าเติมพลังกันจนอิ่ม ก็ได้เวลาไปหาซื้อของฝากจากฝรั่งเศสครับ เน้นพวกขนมแหละเลยไปซื้อที่ Supermarket แถวๆ นั้น แล้วค่อยไปซื้ออีกทีที่เวียดนามกัน

Graffiti ยังสวย

Dr Pepper ยังขายอยู่!!!

เสร็จแล้วก็กลับมาเก็บขอ checkout จากโรงแรม Generator Hostel เป็นโรงแรมที่ออกแนว Hotel + Hostel นิดๆ คือห้องรวมเหมือน Hostel เลย แต่มีสิ่งอำนวยความสะดวกเท่า Hotel และเป็นสัดส่วนดี ใครจะสังสรรค์ก็มี Bar เท่าที่อยู่ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกวนใจครับ

Checkout เสร็จก็รีบบึ่งไปสนามบิน Paris Charles de Gaulle Airport กัน นั่งรถไฟไปหลายต่อเลย หลักๆ คือหาทางไปรถไฟ RER B เพื่อไปสถานี Aéroport Charles de Gaulle 1 (Paris RER) ครับ ส่วนรถไปสนามบินก็วิ่งหวานเย็นเหลือเกินแถมตกรถไป Terminal อีก รีบปั่นไป checkin + drop กระเป๋า พนักงานสงสัยมากครับว่าทำไมไม่กลับไทย ต้องหยิบเอาตั๋วเครื่องบิน Nok Air ขาจากเวียดนามกลับไทยให้เขาดูถึงจะยอม

หลังจากนั้นพวกผมก็ไปเข้าคิว ตม ที่ยาวมากกกก แม่งทั้งยาวทั้งช้าจนกว่าจะผ่านมาได้ก็ต้องรีบไปที่ Gate แล้ว ไม่มีเวลาเดิน Duty Free หรือ Shopping เกร๋ๆ ที่สนามบินล่ะ (มุแงงง) แต่อย่างน้อยก็ได้ซื้อ Chocolate ยี่ห้อ Godiva จากหน้า Gate อ่ะนะ แต่มันของ Belguim นี่หว่า ช่างเถอะ

หน้า Gate มีเกมตู้ให้กดเล่นด้วย

ขากลับมาเอเซียก็ยังคงนั่ง Qatar Airways ไปแวะที่สนามบิน Hamad International Airport เช่นเดิมครับ ขากลับโชคดีที่เจอ Flight Attendant เป็นคนไทยก็เลยพูดคุยได้สะดวกหน่อย จากบริการที่ดีเยี่ยมอยู่แล้วก็กลายไปดีสุดๆ ไปเลย สบาย

ยืดขาได้ ฟินมากกกก

แต่จอทีวีต้องดึงออกมา เวลาจะลุกหรือนั่งตอนไปเข้าห้องน้ำจะลำบากนิดนึง แลกกับได้ยืดขาน่ะครับ

ระหว่าง Flight ก็นอนกับดู Netflix ไป เป็นการเดินทางที่สงบดีครับ

สั่งชุด Beef ไม่ได้จดบันทึกไว้ว่าเป็นไง แต่เขียนไว้ว่า “น่าสั่ง Risotto แฮะ” ส่วนข้างๆ คือ Baileys Irish Cream ที่เป็นเหล้าผสมกาแฟที่ Flight Attendant ป้ายยาว่ามันดีมากๆ ก็จัดไปครับ ผมคนยุง่าย

พวกเรามาถึง Doha ตอนประมาณห้าทุ่มและ Flight ต่อไปก็ประมาณหลักตีกว่าๆ ก็เลยไม่นอนกัน เดินเล่น เข้าห้องน้ำ (ย้ำว่ามีสายฉีดก้น) แล้วก็ไปรอหน้า Gate เลย แต่ขากลับฝั่งเข้าเอเซียนี่ Gate ดูง่อยๆ กว่าขาไปยุโรปชัดเลย

เจอกันอีกแล้วนะน้องหมี Lamp Bear

Gate ขากลับครับ

เครื่องขากลับจริงๆ เป็น Flight Qatar –> เวียดนาม –> กัมพูชาครับ คนเยอะมากกก share code flight เพียบ แต่ดันเป็นเครื่องเล็กซะงั้น เครื่องก็เก่าด้วย (แนวๆ นั่ง AirAsia อ่ะ)

เล็กกว่าเที่ยวไปกลับยุโรปชัดเจน

บรรยากาศในเครื่อง

Flight ขากลับนี่ผมหลับๆ ตื่นๆ ตลอดทางครับ เพราะมันเวลาหลักตีไปแล้ว มีกินขนมกินข้าว 1 มื้อแล้วก็วนไปหลับสลับตื่นต่อจนกระทั่งถึง Tan Son Nhat International Airport เมือง Ho Chi Mihn ประเทศเวียดนาม

ก็ขอจบ Blog เที่ยวทิพย์ยุโรปไว้เท่านี้ครับ เป็นประสบการณ์ที่สนุกมาก แปลกใหม่ ตื่นเต้น เมือง Paris นี่สมเป็นมหานครของโลกจริงๆ มีทั้งที่เที่ยวสวยงามอลังการงานสร้างทั้งแนวสมัยใหม่ แนวประวัติศาสตร์ และมีแหล่งเสื่อมโทรมที่ต้องระวัง ส่วนประเทศอื่นๆ ที่ไปก็มีหลากหลายทั้งแนวยุโรปยุคกลางจนไปถึงเมืองโคตร Mordern ซึ่งเจ้า Paris เป็นเมืองที่ Mix and Match สองอย่างที่ว่ามาได้ลงตัวที่สุดล่ะ มีครบทุกรสดี หลังจากนี้จะเปลี่ยนชื่อ Blog เป็นเที่ยวเวียดนามซึ่งก็เป็นอีกแบบนึงไปล่ะครับ

อยากไปเที่ยวยุโรปอีกจังเลย T^T ชอบเมืองสวยๆ อากาศดีๆ

บ๊ายบาย

Link:
– สรุปทริป Netherlands, Belgium, France, Vietnam 2018