Spider-Man: No Way Home

Spider-Man: No Way Home เป็นภาพยนต์ Superhero ภาคปิคของไตรภาค Jon Watts (ตระกูล Home ทั้งหลาย) ซึ่งเป็น Spider-Man คนแรกที่ร่วมในจักรวาล MCU (จริงๆ ก็ Columbia Pictures กับ Marvel Studios ร่วมกันสร้างนั่นแหละ) ครับ หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่โคตร Hype ตั้งแต่เปิดตัวเพราะหนังบอกแต่แรกว่าภาคนี้ Spider-Man (Tom Holland) จะต้องรับมือกับวายร้ายหน้าเก่าจากไตรภาค Sam Raimi และ Marc Webb reboot ที่ขนนักแสดงเดิมมาครบ set แถมด้วยข่าวลือต่างๆ นานา ตัวอย่างที่ดูตัดต่อแบบไม่เนียนแต่ดึงดูดให้อยากดูสุดๆ ทำให้ผมจองตั๋วไปดูตั้งแต่วันแรกที่หนังเข้าเมื่อวันที่ 23 ธันวาคมที่ผ่านมาเลยครับ (บ้านเราช้ากว่าอเมริกา 1 อาทิตย์)


ภาพประกอบจาก @SpiderManMovie

No Way Home นั้นจะเล่าเรื่องต่อจาก Far From Home ซึ่ง Mysterio จัดฉากตบตาคนทั้งโลกว่า Spider-Man เป็นคนฆ่าเขาแถมยังเปิดโปงตัวจริงของเขาส่งท้ายอีก ชีวิตของ Peter Parker และเพื่อนกับครอบครัวอย่าง ป้าเมย์, Ned และคนรักอย่าง MJ ก็งานเข้าอย่างจังทั้งคดีความทั้งเรื่องชีวิตส่วนตัว จนเขาต้องไปขอพึ่ง Dr. Stephen Strange ให้ช่วยแก้ไขโดยลบความจำเรื่องเขาเป็น Spider-Man จากคนทั้งโลกให้หน่อย และก็เดาได้ว่าแหละว่าอะไรๆ มันต้องไม่ไปเป็นไปตามที่หวังไว้เพราะว่ามันทำให้วายร้ายจากจักรวาลอื่นๆ อย่าง Doctor Octopus Green Goblin Electro Lizard และ Sandman โผล่มาใน Earth-199999 ซะงั้นครับ

สำหรับผมแล้ว No Way Home เป็นภาคที่มีความเป็นหนัง Sony’s Spider-Man สูงมากทั้งการเดินเรื่อง บท และประเด็นต่างๆ ที่หนังใส่เข้ามา มันสรุปความเป็นหนัง Coming of age ที่ถูกวางมาตั้งแต่ต้นได้อย่างดี คือตั้งแต่ภาค Homecoming ที่วาง Peter Parker เป็นเด็กมัธยมและเป็น Superhero วัยรุ่นที่คิดว่าตัวเองพร้อมแต่จริงๆ ยังไม่พร้อม กับภาค Far From Home ที่เล่นเรื่องชีวิตส่วนตัว vs หน้าที่ Superhero ขัดกัน มาภาคนี้ได้รับการสานต่อเรื่องความรับผิดชอบ ความคิดกับทางเลือกที่ต้องเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ประเด็นนี้ก็ทำได้ดีจริงๆ drama จัดเต็ม เดินเรื่องสนุกด้วย

เรื่อง Fan Service ก็หายห่วงครับ จัดเต็มสุดๆ ไม่ดู MCU หรือหนัง Spider-Man ภาคก่อนๆ มางงแน่นอน

ส่วนตัวร้ายภาคนี้ถึงจะไม่มีตัวร้าย Original ของตัวเอง แต่ตัวร้ายเก่าๆ ทุกตัวมีมิติ มีความเป็นมนุษย์ซึ่งมีทั้งดีทั้งร้ายในตัวเองแต่ทุกคนหลงไปกับพลังที่ได้มา (ซึ่งก็เป็นเอกลักษณ์ของตัวร้ายของ Spider-man อยู่แล้ว) ภาคนี้ Willem Dafoe และ Alfred Molina แสดงดีมากกกกกก ปล่อยของเต็มที่ ทรงพลังสุดๆ แต่ก็ทำเอา Electro, Sandman และ Lizard โดนกลบไปเหมือนกัน เพราะบทไม่ค่อยส่งด้วยแหละครับ

ข้อเสียของภาคก่อนๆ ที่แฟนๆ สไปดี้ไม่ชอบก็คือทำให้ Peter version Tom Holland อยู่ใต้เงาของ Tony Stark หรือ S.H.I.E.L.D. มากเกินไป ขัดกับใน Comic หรือหนัง version อื่นๆ ที่พึ่งตัวเองเป็นส่วนใหญ่ ขอบอกว่าภาคนี้แก้ปัญหานี้แล้วครับ เราจะได้เห็นบทบาทของ MJ และ Ned มากขึ้นและรักทั้งคู่มากขึ้นด้วย ส่วนพ่อหมอแปลกเราก็ Balance บทได้ดีเลย ไม่มากไม่น้อยเกินไป

สรุปแล้ว No Way Home เป็นภาคที่ดูสนุกสมกับความ Hype ความปั่นจริงๆ ผมยกให้เป็นภาคที่สนุกที่สุดในไตรภาค Jon Watts/MCU เลย แต่ถ้าวัดรวมทุกเรื่องแล้วผมยังยกให้ Into the Spider-verse เป็นหนัง Spider-Man ที่ดีที่สุดอยู่นะเพราะว่าเล่าทุกอย่างที่ตระกูล Home ใช้เวลาลากมาถึง 3 ภาคได้จบในภาคเดียวได้อย่างลงตัว ดูสนุกและได้เอกลักษณ์ความเป็น Spider-Man ได้ครบถ้วนในตัวเองโดยไม่ต้องไปพึ่งใครครับ

ป.ล. สิ่งที่อยากที่สุดในการเขียนรีวิวเรื่องนี้คือเขียนยังไงไม่ให้ Spoil ครับ คือบอกมากไปแม่งสปอยทันที ข้อดีข้อเสียที่ชัดสุดมันก็อยู่ในสปอยนี่แหละ

One thought on “Spider-Man: No Way Home

Leave a comment

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.