สะพายกล้องเที่ยวทิพย์ยุโรป: ตอนที่ 6.2 สวัสดี Bruges

ต่อจากตอนที่แล้วนะครับ พวกเรานั่งรถไฟออกจากเมือง Antwerp ใช้เวลาเดินทางชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึงสถานี Brugge railway station เมือง Bruges (หรือบางทีเขียน Brugge) กันล่ะครับ

Bruges เป็นเมืองเก่าแก่ตั้งแต่สมัยไวกิ้งโน่นเลยครับ (ค.ศ. 840) ยุคทองของเมืองนี้คือช่วงศตวรรษที่ 12 ถึง 15 เพราะเป็นเมืองท่าที่เจริญรุ่งเรืองทั้งการค้าและศิลปะ แม้จะมียุคตกต่ำช่วงศตรวรรษที่ 16 แพ้เมือง Antwerp แต่ก็ได้รับการฟื้นฟูในฐานะเมืองท่องเที่ยวในช่วงศตวรรษที่ 19 จนกระทั่งได้รับเลือกให้เป็น UNESCO World Heritage Site ในปี 2008 ครับ

ตอนมาถึงเมือง Bruges ตอนแรกเฉยๆ มากเพราะ สถานี Brugge railway station นี่ธรรมดาสุดๆ มัน World Heritage ตรงไหนหว่า แต่พอลากกระเป๋าเดินเข้าเขตเมืองเก่าเท่านั้นแหละตื่นตาตื่นใจเลยครับ เมืองสวยมากกกก โบราณ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ยุโรปยุคกลางไม่ต่างจาก Antwerp แต่เมืองใหญ่กว่ามาก

บ้านพัก Airbnb ที่พวกผมพักอยู่โซนด้านนอกหน่อย เงียบสงบดี มีทั้งชาวบ้านจริงๆ กับนักท่องเที่ยวครับ บ้านพักสวย มีสามชั้น แต่ด้วยความขี้เกียจเลยทิ้งกระเป๋าไว้ชั้น 1 นี่แหละ พักสักแป๊บแล้วก็ออกมาเดินเที่ยวเมืองกัน

เรื่องความสวยของเมืองนี้ถ้าให้บรรยายก็ตอบว่าเหมือนทั้งเมืองใส่ filter instagram พร้อมใช้ แค่ถ่ายจักรยานที่จอดไว้ในเมืองก็ hipster แล้วครับ

จากที่พักผมจะเข้าย่านท่องเที่ยวต้องเดินผ่าน Church of Our Lady จากทางด้านหลังก่อนด้วย ถ่ายรูปสวนด้านหลังมาหน่อยนึง

ออกมาเข้าย่านท่องเที่ยวก็เจอคนเพียบเลยทั้งนักท่องเที่ยวและนักเรียนโรงเรียนแถวนั้นที่เพิ่งเลิกครับ




ดูน่ากินดีแฮะ

พวกเราเดินเข้าไปชม Church of Our Lady มานิดหน่อย ไม่ได้เข้าตัววิหาร แต่ด้านนอกก็สวยสุดๆ ไปเลยล่ะ


เรือท่องเที่ยวตามคลองบ้านเขา คนเต็มตลอด

ออกจาก Church of Our Lady เดินตรงไปเรื่อยๆ ก็จะถึงสะพานที่ข้ามไปย่านท่องเที่ยวที่มีจุดศูนย์กลางคือ The Markt (“Market Square”) แล้วครับ แถวนี้ข้างทางอาคารยังดูใหม่หน่อยแต่ว่ารักษาสถาปัตยกรรมเนียนไปกับเมืองมาก


รถม้าก็มี


ร้านค้าก็สวย

ท่าเรือท่องเที่ยวเขาก็อยู่แถวๆ สะพานนั่นแหละ แถวนี้คนปั่นจักรยานเยอะด้วย ผมเจอคนปั่นจักรยานจะชกกับคนขับรถก็แถวๆ นี้แหละ (น่ากลัวจริง)


สะพานข้ามไป The Markt

ข้ามมาก็เป็นทางเดินตรงๆ ไป The Markt เลย เราจะเห็นหอคอย Belfry of Bruges ที่อยู่กลางจตุรัสเป็น Landmark ครับ หลงทางหรือเข้าซอยเล็กซอยน้อยสวยๆ ยังไงก็กลับไปจตุรัสได้


เดินเลี้ยวเข้าซอยแบบงงๆ มาเจอมุมสวยๆ นี้เฉย

ร้านขนมแถวนี้ก็เยอะ ผมซื้อกินตรงนั้นเลย อร่อยมากฮะ อยากซื้อกลับบ้านอยู่แต่เอาไว้ใกล้ๆ วันกลับล่ะกัน

ส่วนจตุรัส The Markt นี่ก็เป็นที่โล่งๆ ล้อมไปด้วยอาคารสำคัญอย่าง Provinciaal Hof, Basilica of the Holy Blood, Belfry of Bruges และร้านอาหาร คาเฟ่ต่างๆ วันนั้นพวกผมก็ไม่ได้ทำอะไรได้แต่เดินดูอยู่ข้างนอกกับถ่ายรูปเฉยๆ วันรุ่งขึ้นค่อยเข้าแต่ละที่เลย


Belfry of Bruges


Provinciaal Hof


Basilica of the Holy Blood


เมือง Instagram Ready จริง

เย็นวันนั้นพวกเราเดินทะลุ Bruges City Hall ออกไปเดินเล่นทางเดินริมน้ำเขา สวยมากครับ (สวยกว่าคลองโอ่งอ่างเยอะ) บรรยากาศเงียบสงบดี ร้านอาหารก็เยอะ


Bruges City Hall


เรือทัวร์คลองวนมาถึงนี่เลยวุ้ย


ร้านอาหาร คาเฟ่บ้านเขา สวยจริง

เริ่มค่ำๆ ก็เดินไปร้านอาหารที่เล็งไว้ ปรากฏว่ามันปิดซะงั้น สุดท้ายค้นๆ ไปเจอแถวที่พักเลยเดินย้อนกลับไปครับ พอได้วิวฟ้าเย็นๆ ริมน้ำอยู่บ้าง (แต่วันรุ่งขึ้นจะได้ถ่ายเต็มๆ เลย)


คนรอตรงนี้เยอะ ร้านอาหารที่เห็นมุมนี้ก็คนต่อคิวทะลัก

ขากลับพวกผมเดินออกข้างหลัง Church of Our Lady เหมือนเดิม บรรยากาศเงียบๆ มืดๆ หน่อยแต่ก็ปลอดภัยดีครับ มีคนเดินอยู่บ้าง ส่วนบรรยากาศย่านที่อยู่อาศัยก็มืดๆ เงียบสงบมาก นานๆ ทีมีรถวิ่ง

จากที่พักเดินลัดเลาะเข้าซอยก็มาถึงร้านอาหารครับ ดูภายนอกเป็นร้านเบียร์ธรรมดาๆ เปิดเมนูก็มีอาหารนิดหน่อย คงเป็นร้านเน้นเมามากกว่า

แต่อาหารที่สั่งมาอร่อยเกินคาดทุกจานครับ ทั้งมังกะโรนีทั้งสลัด จานก็ใหญ่อลังการ

กินเสร็จก็กลับที่พัก เคลียร์ของทุกอย่างที่ค้างไว้ตั้ง Antwerp ดูละครไทยเลือดข้นคนจางที่ cast ออกทีวีพร้อมๆ กับเพื่อน ได้ความรู้สึกแปลกดีที่มาดูละครไทยอยู่กลางเมืองเก่ายุโรป :p

ก็ขอจบการเที่ยวเมือง Bruges แบบผิวๆ ไว้เท่านี้ก่อนครับ ตอนหน้าจะพาชมแต่ละโบสถ์แต่ละวิหารสวยๆ ในเมืองนี้กัน

Link:
สรุปทริป Netherlands, Belgium, France, Vietnam 2018

2 thoughts on “สะพายกล้องเที่ยวทิพย์ยุโรป: ตอนที่ 6.2 สวัสดี Bruges

Leave a comment

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.