Wonder Woman 1984

Wonder Woman 1984 (ขอเรียกย่อๆ ว่า WW84) เป็นหนังภาคต่อของ Wonder Woman แห่งจักรวาล DCEU ที่แป็กกับหนังรวมพลังแต่ได้ดิบได้ดีกับหนังเดี่ยวๆ ตัว Wonder Woman ภาคแรกก็ประสบความสำเร็จมากมายทั้งคำชม (ยกเว้นองค์สุดท้าย) และเงิน ส่วนภาค 1984 นี่ตอนแรกจะฉายตั้งแต่ธันวาคม 2019 ล่ะ แต่ว่าด้วยพิษโควิดเลยเลื่อนไปอีก 3 รอบจนกระทั่วเข้าโรงจริงๆ พร้อมกับ HBO Max เมื่อวันที่ 16 ธันวาที่ผ่านมาครับ


ภาพประกอบจาก imdb

WW84 เล่าเรื่องราวในปี 1984 (66 ปีหลังภาคแรก) Diana ที่ยังลืม Steveไม่ได้ แอบคอยช่วยเหลือผู้คนแบบลับๆ ได้พบกับเพื่อนร่วมงานสาวเฉิ่ม Dr. Barbara Ann Minerva และ Maxwell Lord นักธุรกิจหนุ่มผู้หมายตาหินประหลาดที่ตำรวจเพิ่งยึดได้มาซึ่งมีพลังบางอย่างที่ทำให้ทั้งโลกและจิตใจผู้คน (รวมทั้ง Diana และ Barbara) ยุ่งเหยิงครับ

ออกตัวก่อนว่าผมไปดูเรื่องนี้ทีหลังชาวบ้านเขา ซึ่งเพื่อนๆ เกือบทุกคนที่ไปดูก่อนเล่ามาว่าไม่ชอบภาคนี้บ้าง เละกว่าภาคแรกบ้าง ห่วยแตกเลยบ้างผมเลยไม่ค่อยตั้งความหวังเท่าไหร่ (แต่ก็ยังไปดูอ่ะนะ)

ส่วนตัวแล้วผมรู้สึกโอเคกับภาคนี้กว่าภาคแรกนะครับ คือเข้าใจสิ่งที่หนังพยายามจะสื่อไม่ว่าจะเรื่อง “การอยู่กับความจริง”, “ทุกคนล้วนมีสิ่งล้ำค่าอยู่กับตัวอยู่แล้ว แต่มองไม่เห็นเอง” (อันนี้ออกจะ Feel Good ไปหน่อย), “ทุกอย่างมีราคาที่ต้องจ่าย” และ “โลกนี้ไม่มีทางลัด ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ” คือประเด็นเหล่านี้หนังมันก็สื่อออกมาให้เห็นชัดเจนแหละ นอกจากนี้ยังมีกลับสลับเรื่องการไม่ประสาโลกระหว่าง Diana กับ Steve ด้วยเพราะภาคนี้ Steve ไม่เข้าใจโลกสมัยใหม่ (ในเรื่อง) เลย ฉากบู๊ก็ทำออกมาได้ดี อลังการงานสร้างกว่าภาคแรก มีการแสดงเอกลักษณ์ “ไม่ฆ่าผู้ร้าย” ชัดเจน ส่วน Gal Gadot ก็สวยวัวตายควายล้มมากกว่าเดิมอีก ส่วนเคมีของเธอกับ Chris Pine ก็ยังดีมากไม่แพ้ภาคแรกครับ

แต่ว่าถึงผมจะเข้าใจสิ่งที่หนังพยายามจะสื่อแต่หนังเรื่องนี้มันเล่าเนื้อหาแบบขยี้ดราม่าน้อยไปมาก โดนดราม่าเรื่องความรู้สึกส่วนตัวของ Diana มาบดบังเกือบหมดซึ่งจุดนี้ก็บิ้วอารมณ์ไม่ถึงอีก ตอนแรกที่แสดงออกว่าเหงาก็แสดงออกมาน้อยมากจนเราแทบไม่รู้สึก ส่วนฉากสำคัญนั้นก็สั้นเกินไป ฟูมฟายน้อย ตัดสินใจง่ายมากกก ดูไม่รู้สึกถึงความร้าวรานของทางที่เธอเลือกเลย ถ้าเล่นประเด็นตรงนั้นให้รู้สึกเหงา รู้สึกตัดใจยากมากขึ้นจะทำให้หนังดีขึ้นเยอะเลย (สงสัยเพราะผมเพิ่งดูหนังหว่องกาไวมา ฮาา) นอกจากนี้ตัวร้ายภาคนี้ก็จืดชืดมาก (มากกว่าภาคที่แล้วอีก)

พอดูหนังจบกลับมาคิดได้ว่าสิ่งที่หนังพยายามจะสื่อส่วนใหญ่แล้วมันคล้ายกับเรื่อง Bruce Almighty เลยนี่หว่า แล้วหนัง Bruce มันเล่าออกได้ตรงกว่า ชัดเจนกว่าโดยไม่ต้องพยายามมากด้วย

ส่วนฉากจบที่หลายคนไม่ชอบผมว่ามันดีกว่าองค์สามภาคที่แล้วเยอะนะ แค่มันไม่ได้ขยี้ดราม่ามาก่อนหน้าเยอะพอที่จะบิ้วเท่านั้นเอง

คือสำหรับผมว่า WW84 มันดูสนุก มีสาสน์และประเด็นดี Gal Gadot สวยมาก แต่ว่าสร้างออกมาได้ขาดๆ เกินๆ เหมือนเดิม หลงทางน้อยกว่าภาคแรกแต่ก็ยังไม่ถึงจุดที่เรียกได้ว่าลงตัว (จะว่าไปมันไม่มีหนัง DCEU เรื่องไหนที่ “ลงตัว” จริงจังเลยสักเรื่องนี่หว่า)

ป.ล. ดูๆ แล้วหนัง DCEU มันยังไม่มีเรื่องไหนที่ตัวร้ายเด่นๆ สมศักดิ์ศรีเลยนี่หว่า ไม่เหมือนฝั่ง MCU ที่เด่นทั้งผู้ร้ายที่เหมือน Comic เป๊ะๆ หรือตีความใหม่เกือบทุกตัวเลย

Leave a comment

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.