Prison Playbook

Prison Playbook (ชื่อไทย “ฟ้าพลิก ชีวิตยังต้องสู้”) เป็น Series เกาหลีผลงานกำกับของ Shin Won-ho ที่ได้รับการยอมรับจากละครชุด Reply ทั้งสามภาค สำหรับ Prison Playbook นั้นเป็น เรื่องแรกในชุด Wise Life ผมเริ่มติดตามงานของผู้กำกับท่านนี้ตอนดู Hospital Playlist ซึ่งเป็นเรื่องที่สองของชุดแล้วติดงอมแงมจึงเลือกดูเรื่องนี้ต่อเพราะทุกคนแนะนำให้ว่าห้ามพลาด ปรากฏว่าดูแล้วติดไม่แพ้กันเลยครับ


ภาพประกอบจาก Asian Wiki

Prison Playbook เล่าเรื่องราวของ Kim Je-hyuk นักกีฬาเบสบอลดาวรุ่งของลีคเกาหลีผู้กำลังจะได้ไปเล่นที่ Major League อเมริกาแต่ชีวิตดันพกผันต้องมาติดคุกเป็นเวลา 1 ปีซะงั้น แต่ในความสิ้นหวังเขายังโชคดีอยู่บ้างที่ Lee Joon-ho เพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยเด็กๆ ทำงานเป็นผู้คุมในคุกนั้นพอดี เขาจะเอาตัวรอดในคุกได้หรือไม่และจะพ้นผิดจากคดีได้รึเปล่า ต้องมาติดตามกันครับ

  • ทีแรกกะว่าอารมณ์และบรรยากาศการดูจะเหมือนกับตอน Hospital Playlist แต่เอาเข้าจริงกลับดูติดช้ากว่าเพราะว่าเรื่องนี้มันมืดหม่นและสมจริงกว่าพอประมาณเลย ตัวละครต่างๆ ดูตอนแรกยังไม่ได้รู้สึกอินเท่าไหร่นัก (คือมันเรื่องในคุกน่ะ เทียบกับชีวิตประจำวันเราคงไม่อินหรอก) แต่พอดูตอนที่ 2-3 ก็ติดสุดๆ ล่ะ เนื้อเรื่องเดาไม่ได้เลย ลุ้นทุกตอน ตลกสุดๆ กินใจมาก เพลงประกอบก็ดีงาม
  • ธีมหลักของเรื่องนี้คือเรื่องให้กำลังใจในการสู้ชีวิตและการให้อภัยตนเอง การเดินเรื่องจะค่อยๆ เล่าประเด็นนี้แบบค่อยเป็นค่อยไปผ่านตัวละครและเหตุการณ์ต่างๆ ที่ร้อยเรียงมาค่อนข้างดีเลย ละครแสดงให้เห็นชัดเจนว่าทางที่จะทำให้ผู้เคยกระทำผิดนั้นกลับตัวกลับใจได้คือการเชื่อใจและปฏิบัติต่อเขาเยี่ยงมนุษย์คนหนึ่ง
  • ตัวละครและเนื้อหาเรื่องนี้มีมิติสมจริงกว่า Hospital Playlist มาก มีตัวละครครบทุกแบบตั้งไม่ว่าจะพวกเลวสุดๆ พวกกลางๆ รวมไปถึงคนนิสัยดีที่ถูกกระทำจนต้องมาอยู่ในคุก ทุกคนมีแง่อีกด้านหรือมี back story ที่คิดไม่ถึง (แม้กระทั่งพระเอกของเรา) เนื้อเรื่องมีทั้งประเด็นความรักทั้งระหว่างหนุ่มสาว, ตวามสัมพันธ์ในครอบครัว, ประเด็น LGBT, ประเด็นมิตรภาพ, ประเด็นกฏหมายและประเด็นความเหลื่อมล้ำในสังคม มีครบทุกรสเลยครับ
  • น้อง Krystal เล่นเป็นแฟนเก่าพระเอก เธอสวยน่าร๊ากกกมว๊ากกกก เป็นตัวละครที่มีบทบาทสำคัญมากในเรื่องจริงๆ
  • เพิ่งรู้ว่า Jung Kyung-ho ที่เล่นเป็นเพื่อนสนิทพระเอกก็คือแฟนของ Sooyoung Girls’ Generation นั่นเอง
  • นักแสดงเล่นดีมากทุกท่าน เคมีเข้ากันดีทุกคนเลย นักแสดงบางส่วนเป็นก๊วนที่ตามไปเล่นใน Hospital Playlist ต่อ (บางคนก็มีเนื้อเรื่องบางส่วนที่คล้ายเรื่องนี้ด้วย) การได้เห็นพวกเขาเล่นเป็นอีกคนหนึ่งในบทบาทที่ต่างกันออกไปแบบเนียนๆ นั้นสนุกมากครับ
  • ชอบมิตรภาพร่วมคุกและร่วมห้องขังของพระเอกที่เริ่มจากความหวาดระแวงกันจนกลายเป็นความเชื่อใจเหมือนเป็นพี่น้องกันจริงๆ นำไปสู่การปรับปรุงตัวเองในด้านต่างๆ ตัวละครหลักมี Character Development ชัดเจนและน่าติดตามทุกคน
  • ประเด็น Privilege ของพระเอกก็น่าสนใจ คือพระเอกในเรื่องได้สิทธิพิเศษจากทั้งพัสดี, ผู้คุมหรือแม้กระทั่งจากนักโทษด้วยกันเองเสมอ ซึ่งในเรื่องเราก็เห็นได้ชัดว่าตัวเองของเรา enjoy สิทธิพิเศษนั้นเพื่อตัวเองและเพิ่อนร่วมคุก พระเอกเรารู้ตัวตลอดเวลาว่าที่เขาได้สิ่งนั้นสิ่งนี้เพราะอะไรและเขาต้องทำอะไรบ้างเพื่อรักษาสิทธิ์นั้นต่อไป
  • ละครเรื่องนี้ยังเล่าเรื่องความเหลื่อมล้ำในสังคมเกาหลี (ทั้งปกติและสังคมคุก) รวมถึงเรื่องนโยบายต่อผู้ติดยาเสพติดได้เป็นอย่างดีครับ ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะมีผลให้มีการเปลี่ยนแปลงมากแค่ไหน
  • ข้อเสียคือมีตัวละครและ plot ที่โดนทิ้งกลางทางไปดื้อๆ เยอะมากครับ บางประเด็นที่ตั้งไว้ตอนต้นๆ ก็ไม่สานต่อให้จบ ตัวละครบางตัวปูเนื้อเรื่องไว้น่าสนใจแต่หายไปกลางเรื่องซะงั้น เราเลยไม่รู้ว่าเรื่องของพวกเขาจะจบยังไงทั้งๆ ที่เรื่องราวของพวกเขาก็น่าสนใจไม่แพ้พระเอกด้วยซ้ำ


เพลงประกอบเพราะทุกเพลง

Prison Playbook เป็นละครที่ดูแล้วอบอุ่นหัวใจ ตลก และยัง Feel Good ที่ยังอยู่บนพื้นฐานความจริงอยู่ครับ ให้ทั้งความหวังและกำลังใจในดำเนินชีวิตแต่ก็ยังมีแง่มุม darkๆ ให้ตระหนักรู้ว่าโลกนั้นโหดร้ายเพียงใด แนะนำเลยครับเรื่องนี้ ช่วงแรกอาจจะดูติดยากหน่อย แต่ดูแล้วรับรอบว่าไม่ผิดหวังแน่ๆ

ป.ล. ดูสองเรื่องติดกันแล้วชอบขนาดนี้ ต้องย้อนกลับไปดู Reply ทั้งสามภาคให้ครบล่ะครับ

Leave a comment

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.