บันทึก Work From Home ตอนที่ 4

ต่อจากตอนที่แล้วนะครับ เขียนรวบ 2 อาทิตย์อีกเช่นเคย นับแล้วก็ทำงาน Remote มาได้เดือนครึ่งนิดๆ ล่ะครับ

ปัญหาเกี่ยวกับงานที่เจอ

พบว่าช่วงสองอาทิตย์ที่ผ่านมาฝีมือตกลงไปมาก ตกแบบทำงานพลาดระดับไม่น่าเชื่อไปสองงาน ส่วนหนึ่งเพราะประมาทเองกับอีกส่วนคือรีบร้อนเกินไปอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน คิดว่าไอ้ความเครียดแปลกๆ ที่สะสมมาเดือนกว่าเริ่มทำงานล่ะ โชคดีที่ยังพอกู้กลับมาได้ 1 งาน แต่ไอ้ความเครียดกดดันอันนั้นยังอยู่นะ

ตอนนี้พยายามจะลุกมาเดินและมีช่วงพักให้มากขึ้น คิดเยอะๆ ขึ้น ปรึกษาเพื่อนในทีมเยอะขึ้น ยอมลด speed ตัวเองลงมาหน่อยก่อนดีกว่า ก็ต้องดูต่อไปครับว่าจะเป็นยังไง

ส่วนเรื่องทำงาน Remote มีวันนี้ระบบบางอย่างบึ้มไป ขลุกขลักอยู่ครึ่งวันเลยทีเดียว ไม่รู้จะเอาไงต่อเหมือนกัน แถมยังรู้สึกว่างานแม่งเยอะขึ้นด้วย

สิ่งที่ทำ

เพราะต้องนั่ง “ทำงาน/พักผ่อน” มากกว่าเดิมเลยกัดฟันซื้อเก้าอี้ Ergonomic Aeron PostureFit SL รุ่นถูกสุดตามลุง @pittaya มาครับ ราคาแรงมากกก แต่ได้ผ่อน 0% 10 เดือนกับคิดว่าแลกกับสุขภาพหลังและเอวก็น่าจะคุ้ม ของส่งไวดี

พอได้มานั่งอยู่สองวันปวดหลังปวดเอวไปหมด หงุดหงิดมากเพราะเก้าอี้ก็แพงแล้วยังนั่งไม่สบาย สุดท้ายได้รับคำแนะนำจาก @FordAntiTrust @McKe3z และ @wiennat เรื่องการปรับเก้าอี้ ปรับโต๊ะและท่านั่งที่ถูกต้อง ผลออกมาดีมากกกกกกก นั่งสบายขึ้นเยอะ ไม่ตัวไหลจนปวดหลังแบบเดิมแล้ว มีส่วนแขนกับไหล่ที่ยังไม่ชิน (มิตรสหายท่านหนึ่งบอกว่านั่งผิดวิธีมาเป็นปีๆ มันก็ต้องใช้เวลาดัดกันหน่อย) คำแนะนำของพวกลุงๆ ทั้งหลายคือตามหลักใน VDO นี้เลยครับ

พอต้องปรับโต๊ะก็เลยพบว่าโต๊ะทำงานเดิมมันมีลิ้นชักหนามาก ทำยังไงขาก็ติดก็เลยสลับโต๊ะทำงานมาโต๊ะวางของข้างๆ แทน เอากล่องมาช่วงวางเท้าด้วย ดีขั้นเยอะ แต่ช่วงกลางวันแดดสะท้อนหลังคาบ้านจนแสบตาเลยต้องเอาม่านมาบังแล้วเปิดแอร์เอา

ปัญหาอื่นๆ เจอ

อาทิตย์ที่แล้วพบว่านังข้าวปุ้นป่วย โชคดีที่รีบพาไปหมอและผ่าตัดรักษาทันในหนึ่งวัน (ซีสต์+เนื้องอกในมดลูก) ช่วงนี้ก็รักษาให้ฟื้นตัวอยู่ครับ

ช่วงนี้อากาศร้อนมากกกกกจนต้องยอมเปิดแอร์ทำงานล่ะ ไม่งั้นไม่ไหวจริงๆ พบว่ายิ่งอากาศร้อนยิ่งคิดอะไรไม่ออกเลย ส่วนปัญหาด้านจิตใจก็ยังเหมือนเดิมคือ ไอ้ความรู้สึกชีวิตติดลูป ตื่น – ออกกำลังกาย – ทำงาน – เล่นเกม – นอน มันไม่หายไปไหนเลย (เพราะพฤติกรรมมันแบบนี้แหละ) คือปกติระหว่างวันทำงานผมยังไปไหนมาไหนหรือเปลี่ยนบรรยากาศเพื่อคลายเครียดบ้างแต่นี่คือติดลูปนี้อยู่ที่บ้านตลอดเวลา ถึงจะมีเวลามากขึ้น ไม่เหนื่อยจากการเดินทางแต่มันก็ได้ความรู้สึกติดแหงกกลับมาแทน มีออกไปไหนมาไหนบ้างวันนึงแต่ก็ต้องรีบกลับบ้านอยู่ดี

ตอนนี้ก็เลยพยายามจะทำอย่างอื่นบ้าง อ่านหนังสือ (จบเล่มเล็กๆ ไปสามเล่มล่ะ) ไล่เขียน Blog หนังค่าย Ghibli ให้จบ (อันนี้สำเร็จ) เขียนเรื่องที่ค้างๆ ไว้ให้หมด เว้นๆ เล่นเกมบ้าง (อย่าง Animal Crossing ที่เล่นคลายเครียดบางทีแม่งเครียดเพราะต้องเล่นทุกวัน ต้องแต่งเกาะให้เพื่อนชมงีั้ หรือ Final 7 Remake ที่เล่นไม่จบเสียที)

ว่าจะเริ่มเขียน Blog Trip ที่ดองไว้ 2 ปีสักทีให้จบๆ ไปล่ะ รูปบันทึกการ Work From Home ก็แทบไม่ได้ถ่ายเพิ่มเท่าไหร่

มุมพักผ่อนตอนนี้

สรุป
1 เดือนครึ่งที่ผ่านมาของการ Work From Home + Social Distancing ก็ยังต้องการปรับตัวต่อไปเรื่อยๆ ครับ ยังไงก็ขอให้รักษาสุขภาพกายสุขภาพใจกันทุกท่านนะครับ