บันทึก Work From Home ตอนที่ 2

ต่อจากตอนที่แล้ว ขณะนี้ผมทำงานแบบ Work From Home มา 2 อาทิตย์ล่ะ (นับจริงๆ คือ 14 วัน) ในอาทิตย์ที่สองนี้ผมเปลี่ยนวิธีการทำงานที่บ้านไปบ้าง ก็ขอมาเล่าสู่กันฟังครับ

สิ่งที่ทำ
อย่างแรกคือผมแก้ปัญหาพื้นที่ทำงานซ้อนทับกับพื้นที่ส่วนตัวด้วยการไปจัดห้องเก็บของห้องนึงให้กลายเป็นห้องทำงานโดยเฉพาะเลย คือห้องนั้นเป็นห้องนอนเก่าเผ่า มีโต๊ะทำงานเก่าตั้งแต่สมัยเด็กของผมอยู่ก็เลยง่ายหน่อย ส่วนเก้าอี้ก็ลากเอาเก้าอี้ที่ใช้อยู่ไปนี่แหละ


สภาพห้องทำงานตอนนี้

ตอนแรกใช้แค่ Laptop อย่างเดียววางบนกล่องยกสูงระดับสายตาแล้วต่อ keyboard นอก แต่ทำงานไปครึ่งวันแล้วไม่ไหวจริงๆ จอเล็กเกินไปแถมโปรแกรมที่บริษัทแม่งก็ไม่ support จอเล็กอีก จะใช้จอคอมเก่าที่มีอยู่แม่งก็ใช้ได้แต่ port โบราณที่ Laptop ผมไม่มีแล้วก็เลยต้องเข้า office ไปยกจอคอม Dell (P2213) กับ Adapter ทั้งหลายมาใช้ที่บ้าน ถือว่าได้โอกาสขนของกลับบ้านเพิ่มครับ


จอเล็กกระจึ๋งนึง

สุดท้ายก็จบที่ Solution Laptop + 1 external Monitor + mouse + keyboard นอก เป็นสองจอไป อุปกรณ์แยกกันระหว่างคอมส่วนตัวกับคอมทำงานแยกกันขาดเลย Setup นี้ ไม่สะดวกเท่า 2 จอใหญ่หรือ 1 จอ Ultrawide แบบเดิมแต่ก็ถือว่าโอเคขึ้นเยอะ สายตายังงงๆ กับสองจอที่ Scale ไม่เท่ากันอยู่บ้าง


สองจอ

เท่าที่ทำงานมารู้สึกว่าแก้ปัญหาพื้นที่ทำงานซ้อนทับกับพื้นที่ส่วนตัวไปได้ล่ะครับ ห้องทำงานนั้นมีทั้งมุมทำงานและมุมพักผ่อนแบบเบาๆ ติดกันเลย เครียดๆ ก็ลงไปเล่นกับหมาหรือมาพักที่ห้องนอนได้ แต่ปัญหาเสียงรบกวนยังไงก็แก้ไม่ได้นะเพราะจริงๆ ห้องนั้นมันก็ติดกับห้องนอนผมน่ะ อีกอย่างคือมันก็ร้อนไม่ต่างกันด้วย


มุมพักผ่อนแบบเบาๆ

แต่ข้อเสียก็มีคือพอแยกห้องทำงานแล้วก็หมกตัวทำงานอยู่ในห้องนั้นนานเกินไป กลายเป็นแยกเวลาส่วนตัวกับทำงานยากขึ้น เดินน้อยลงไปอีก อาทิตย์หน้าจะพยายามแบ่งเวลากับเดินให้มากขึ้นครับ

ออกไปนอกบ้าน
นอกจากวันจันทร์ที่ออกจากบ้านไปเอาของที่ Office แล้วเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาผมก็ออกจากบ้านไปหาหมอเรื่องกรดยูริคซึ่งนัดล่วงหน้าไว้อยู่แล้ว (หมอไม่เลื่อนนัด) ถือว่าได้เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง ลดความเครียดได้เยอะเหมือนกัน (แต่ถ้าเลือกได้ก็ไม่อยากออกหรอก) กลับมาถึงบ้านบ่ายๆ ก็เลยลาทั้งวันเลย ซึ่งจริงๆ ก็อยู่บ้านเหมือนเดิมแหละ แต่เลือกที่จะไม่เดินเข้าห้องทำงานเลย ซึ่งก็เป็นข้อดีอย่างหนึ่งของการแยกห้องส่วนตัวกับห้องทำงานกันชัดเจนครับ ส่วนออกไปซื้อของใช้ที่จำเป็นอื่นๆ ก็มีบ้าง

ผลตรวจร่างกายก็น้ำหนักลงมาหน่อยๆ ค่ายูริคลดซึ่งแปลว่าที่พยายามคุมการกินกับออกกำลังได้ผลอยู่ ก็ต้องพยายามต่อไปล่ะครับ


MRT


BTS

ปัญหาเกี่ยวกับงานที่เจอ
เรื่องงานก็ยังมี Suprise เรื่อง VPN มาได้เรื่อยๆ ว่าไอ้โน่นไอ้นั่นไอ้นี่ที่ไม่ควรจะต้องใช้ VPN ก็เสือกต้องใช้ซะงั้น VPN ก็ยิ่งช้าเต่าถุยเข้าไปใหญ่ ดังนั้นอะไรที่จะต้องใช้ VPN ก็จะรีบๆ ใช้ตอนเช้าช่วงที่มันยังเร็วอยู่

ช่วงนี้การประชุมก็ไม่ได้ลดน้อยลงไปแถมยังเพิ่มขึ้นด้วย ผมใช้ App Chroma Cam ไว้ใส่ background แทนห้องตัวเองไปครับเพราะ MS Team มันทำได้แต่ blur กากๆ ข้อดีคือมันใช้งานง่าย แต่ว่าใช้แล้วโหลดเครื่องหนักอยู่เหมือนกัน พยายามดูตัวอื่นอยู่


ก่อนย้ายห้อง เจอ Bluescreen ซะงั้น

ส่วนการใช้ชีวิตอื่นๆ ก็ติด Animal Crossing: New Horizons งอมแงมเล่นจนนอนดึกทุกวัน เพิ่งดู Nogizaka46 7th YEAR BIRTHDAY LIVE วันที่ 4 จบไป (ใช้เวลาดู 3 วัน!!!) ส่วน Netflix ก็พยายามจะไล่ดูอนิเมชั่นของค่าย Ghibli ให้ครบ ถึงจะได้เวลาคืนมามากขึ้นแต่รู้สึกว่าสิ่งที่อยากทำมันก็ไม่ได้ลดลงไปเลย ไม่มีเวลาทำทุกอย่างให้ครบอยู่ดี

อีกหนึ่งวิธีการคลายเครียดคือการถ่ายรูปหมา ถ่ายรูปวิวแถวบ้านแล้วก็โต๊ะทำงานตัวเองนี่แหละ อาทิตย์นี้ Focus กับงานมากขึ้นก็เลยถ่ายรูปมาน้อยหน่อย


ข้าวปุ้น


ข้าวตอก


วิวที่เห็นจากบ้าน

สรุป
ตอนนี้ผมแก้ปัญหาพื้นที่ไปได้แต่ Time Management ยังคงเป็นปัญหาเช่นเดิมครับ ผมคิดว่ายังไงก็ต้อง WFH ต่อไปไม่ต่ำกว่า 2 อาทิตย์แน่ๆ ดังนั้นคงต้องหาทางปรับตัวให้ชีวิตมีสมดุลระหว่างการงาน vs ความเป็นส่วนตัว vs ครอบครัวให้มากขึ้นกว่านี้ล่ะ


พยายามโกนหนวดโกนเครา แต่ตัว Semi-ออกไปทำงาน ทุกวัน

รักษาสุขภาพทุกท่านนะครับ

One thought on “บันทึก Work From Home ตอนที่ 2

Leave a comment

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.