Princess Mononoke (Netflix) เป็นภาพยนต์อนิเมชั่นระดับเรือธงของค่าย Ghibli ซึ่งกำกับโดยปู่ Hayao Miyazaki เอง มันเป็นภาพยนต์ที่ครองตำแหน่งรายได้สูงสุดในญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 1997 ที่ออกฉายจนกระทั่งถูกทำลายสถิติโดย Spirited Away ในปี 2001 ครับ มันยังเป็นหนังที่ทำให้นักดูหนังตะวันตกเริ่มสนใจสตูดิโอ Ghibli ด้วย
ภาพประกอบจาก imdb
Princess Mononoke เล่าเรื่องราวของอาณาจักรญี่ปุ่นในยุคโบราณเจ้าชาย Ashitaka แห่งเผ่าลึกลับเผ่าหนึ่งได้ปกป้องหมู่บ้านจากปีศาจหมูป่า แต่ก็แลกมาด้วยโดนคำสาปจากปีศาจนั้นทำร้ายที่แขนและคำสาปนั้นจะลุกลามทำให้เขาตายในที่สุด เพื่อที่จะหาทางถอนคำสาป เขาจึงออกเดินทางย้อนรอยปีศาจหมูป่าไปทางตะวันตกหาต้นตอของความชั่วร้ายนั้น เขาไม่รู้เลยว่าเขาได้เดินทางไปสู่ความขัดแย้งระหว่างกลุ่มคนชายขอบแห่งเมืองเหล็กที่ต้องการเอาตัวรอดกับเทพเจ้าธรรมชาติที่พยายามช่วงชิงป่าของตัวเองกลับคืน
- เรื่องนี้เหมือนกับ Porco Rosso คือได้ยินชื่อเสียงมานานแต่ไม่ได้โอกาสได้ดูสักที เพิ่งมาได้ดูใน Netflix นี่แหละ แถมยังเป็นเรื่องที่ปู่กำกับเองต่อจาก Porco Rosso ด้วย
- ถึงจะบอกว่าเรื่องต่อกันแต่ธีมของเรื่องต่างกันลิบ เรื่องนี้เนื้อหาหนักมาก โหดระดับหัวขาดกันเห็นๆ
- หนังเล่าถือความขัดแย้งระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติได้ดีมากครับ ไม่มีฝ่ายดีฝ่ายร้ายชัดเจน (จะว่าสีเทาๆ ก็ไม่ใช่) ฝ่ายหนึ่งคือกลุ่มคนชายขอบที่ถูกไล่ออกจากสังคมให้มาหาที่ทางตัวเอง (ชาวเมืองเหล็ก) ซึ่งดันไปทับซ้อนพื้นที่กับผู้อยู่มาก่อน (เทพเจ้าแห่งผืนป่า) ยิ่งเมื่อมีความรุนแรงเกิดขึ้นมันก็ยากที่จะพูดคุยหรือหา “ที่ตรงกลาง” ระหว่างกัน ตัวหนังแสดงให้เห็นธรรมชาติของมนุษย์ ธรรมชาติของความขัดแย้งและสังคมได้ดีเลยครับ
- แน่นอนแหละหนังแสดงให้เห็นชัดเจนว่ามนุษย์ (เมืองเหล็ก) เป็นฝ่ายทำลายธรรมชาติก่อนโดยไม่คิดอะไรมากไปกว่าเอาตัวรอด แต่หนังก็ยังชี้ให้เห็นถึงสิ่งที่บีบให้พวกเขาต้องทำแบบนั้นด้วยเช่นกัน
- ช่วงแรกๆ รู้สึกรำคาญพระเอกที่ Naive มาก แต่ดูๆ ไปท้ายๆ บวกกับปูมหลังเผ่าของเขาทำให้เราเข้าใจความตั้งใจของเรามากขึ้น
- ตัวละครนางเอกอย่าง “ซาน” ก็เป็นอีกตัวละครที่น่าสนใจ นางเป็นมนุษย์ซึ่งถูกเทพเจ้าหมาป่าเก็บมาเลี้ยงตั้งแต่เด็ก นางอยู่พวกเดียวกับเหล่าเทพมาตั้งแต่จำความได้ แม้ว่าจะเผชิญหน้ากับมนุษย์ด้วยกันอย่างชาวเมืองเหล็กแต่นางก็มองว่าเป็นศัตรูมาตลอด จนกระทั่งได้เจอพระเอกจึงได้รู้สึกถึงความเป็นมนุษย์ของตนเอง
- ตัวหนังฉายในปี 1997 สิ่งที่ดูเก่ามีแค่งานภาพกับฉากต่อสู้ซึ่งทำออกมาดูเหมือนหนังซามูไรยุคโบราณ แต่การเดินเรื่องที่ทำให้ดูติดพันและเนื้อหานั้นเป็นประเด็นที่ไม่เก่าเลยครับมาดูสมัยนี้ก็ยังจับเข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันได้อยู่
- รู้สึกว่าปู่แกใจดีมากที่ให้จบแบบนี้ มันคือการคลี่คลายที่ดูประนีประนอมที่สุดระดับนึง ไม่ถึงกับสมหวัง แต่ให้ความหวังกับเราดีครับ
สรุปคือ Princess Mononoke นั้นดีงามสมคำร่ำลือครับ มันไม่ใช่งานที่สวยงาม อิ่มใจเหมือนเรื่องอื่นๆ แต่ว่าเนื้อหาและการเล่าเรื่องชั้นเยี่ยมของมันทำให้มันอยู่ในระดับ Top ของค่ายนี้เลย
ป.ล. 2: ในแง่ความขัดแย้งเรื่องนี้ลึกและเล่าดีกว่า Frozen 2 นะ
ได้ยินมานาน แต่เพิ่งเคยดูเหมือนกัน ภาพโหดและเนื้อหาหนักน่าดู