พาตะลุยกินแหลกล้างฮ่องกง 2016 #1

ในที่สุดก็ได้เวลาเขียน blog ทริปกินแหลกล้างฮ่องกง 2016 ซะที ก็ขอเริ่มด้วยการรีวิวร้านอาหารที่ไปกินก่อนละกัน ทริปปีนั้นเป็นทริปที่เน้นเจาะลึกพวกร้านเก่าแก่ชื่อดังของชาวฮ่องกง, ร้านติดดาว Michelin และร้าน “แนะนำ” ซึ่งมีทั้งร้านบ้านๆ ข้างถนน, แผงลอยรวมไปถึงร้านที่หรูๆ ต่อคิวกินบนห้างครับ ผู้นำทริปคือคุณชายนักเขียน-นักกินแห่งเวบ 2baht.com นั่นเอง ก็ขอเริ่มต้นที่ร้านแรก Mak’s Noodle สาขา Jordan ครับ (รีวิวที่ 2baht แต่คนละสาขา)

ร้าน Mak’s Noodle นั้นเป็นร้านเก่าแก่ของฮ่องกงขายตั้งแต่ปี 1920 ครับ จนกระทั่งปี 1983 เกิดการทะเลาะกันในหมู่ญาติเลยเกิดร้าน Mak Man Kee แยกออกมา แถมที่ Jordan ทั้งสองร้านยังตั้งกันห่างกันแค่ 1 คูหา เอากะเขาสิ จุดเด่นของร้าน Mak’s คือเส้นบะหมี่เล็กๆ แข็งๆ กรุบๆ น้ำซุปรสเข้มข้น ผมสั่งบะหมี่แห้งโรยไข่กุ้ง รสกุ้งเต็มๆ อร่อยมากครับ แต่ข้อเสียคือชามเล็กมากกกกกกก ราคาก็แพง อย่างบะหมี่แห้งผมจานนึง 50 HKD ครับ (ส่วน Mak Man Kee นั้นเกี๊ยวอร่อยกว่าและน้ำซุปรสอ่อนกว่า ทานง่ายกว่าครับ)

ถ้าใครที่่ตั้งใจจะว่ามื้อนั้นจะกินแค่บะหมี่ก็แนะนำให้กิน 1 ชามแล้วไปจัดร้านคู่อริ Mak Man Kee ต่ออีก 1 ชามครับ สบายๆ


บะหมี่น้ำของเพื่อนผม

ร้านถัดมาก็ยังอยู่ในย่าน Jordan ครับ พวกเราไปร้านข้างถนนที่ชื่อ Block 18 Doggie’s Noodle กัน ร้านนี้ได้รางวัล Michelin Recommended Street Food Guide ซะด้วยครับ (รีวิวที่ 2bath)

ก๋วยเตี๋ยว Doggie’s Noodle นั้นเป็นก๋วยเตี๋ยวพื้นถิ่นของฮ่องกงครับ ตัวเส้นทำมาจากข้าวขาว ถือกำเนิดในช่วงปี 1950-1960 ถือเป็นอาหารของชนชั้นล่างสมัยนั้นเพราะฮ่องกงช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สองนั้นเศรษฐกิจย่ำแยและยังขาดแคลนวัตถุดิบอีก จุดเด่นของบะหมี่นี้ก็คือเจ้าแป้งข้าวขาวและมีทั้งหัวไชโป้วกับมันหมูผสม ตอนกินจะได้อารมณ์ประมาณเส้นอูด้งในน้ำโจ๊กครับ เค็มๆ มันๆ หวานนิดๆ อร่อยดี ได้เยอะมาก สะใจ ตอนกินไม่ต้องห่วงเรื่องคอเลสเตอรอลนะครับ พุ่งตามความอร่อยแน่ๆ ราคาแค่ 20 HKD เอง


บรรยากาศร้าน บ้านๆ ดี


กินคาวจนอิ่มแล้วก็ต้องล้างปากด้วยของหวานครับ พวกเราไปร้าน Kai Kai Dessert (Michelin Recommended Street Food Guide) ที่อยู่แถวๆ นั้นแหละกัน ผมสั่งบัวลอยน้ำขิง (black sesame seed rice ball with ginger sweet soup) อร่อยมากๆ น้ำซุปเผ็ดกำลังดีเลย ราคา 18 HKD ครับ


ป้ายร้าน


อร่อยยยย

เช้าวันรุ่งขึ้นพวกเรารีบตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อนั่งรถจากย่าน Jordan ไปร้าน Sun Hing Restaurant 新興食家 (CNN ยกให้เป็น “The Best after-hours Hong Kong dim sum”) ที่ย่าน Kennedy Town ครับ ไกลมากก (รีวิวที่ 2baht)


บรรยากาศร้านบ้านๆ ดีครับ

พนักงานในร้านพูดจีนล้วนไม่มีภาษาอื่นเลยก็จะสั่งยากหน่อย (ชี้ๆ เอา) แต่พนักงานในร้านก็ใจดี ไม่กระโชกโฮกฮากเหมือนที่ Lin Heung Tea House สาขา Central ติ่มซำร้านนี้อร่อยโคตรๆ ครับ เมนูที่พลาดไม่ได้คือซาลาเป้าไส้ทะลัก อร่อยเทพจริงๆ กินไปหลายเข่งตกคนละ 64 HKD แต่คุ้มมากๆ จุกเลย ร้านนี้เปิดตั้งแต่ตี 3 เลยครับ รีบมาเช้าๆ หน่อยคนจะได้ไม่เยอะมากและไม่ต้องรอนานครับ


ขนมจีบเนื้อ บ้านเราไม่มี อร่อยมาก


อันนี้เด็ดจริง

ตอนสายๆ พวกเราไป IFC Mall กัน และก็ไปลองกินไอติมเจลลาโตร้าน Grom ที่ IFC Mall อร่อยยยยยยยย (รีวิวที่ 2baht)

ร้านถัดมาคือห่านย่างร้าน Yat Lok Roast Goose Restaurant (Michelin 1 ดาว) ทีย่าน Central ครับ ร้านเล็กมาก คนต่อคิวก็เยอะ ข้าวห่านย่างเขาอร่อยจริง แต่วิธีสับแบบจีนให้ติดกระดูก (เพื่อแสดงว่าสด) ทำให้กินยากหน่อย ราคา 55 HKD อร่อยสมราคาครับ (รีวิวที่ 2baht)


แทะกระดูกกันเพลิน

ร้านสุดท้ายของ Entry นี้ที่จะพาไปคือร้านข้าวหมูแดง Joy Hing (อดีต Michelin 1 ดาวปี 2014, Bib Gourmand ปี 2016) ตรงย่าน Wan Chai ร้านนี้เจ้าของพูดไทยได้ จุดเด่นคือหมูแดงที่หนา นุ่มไม่แห้ง บางและแข็งๆ แบบบ้านเรา กินกับน้ำจิ้ม (มีหลายรสมาก เจ้าของร้านพยายามจะให้เราลองให้ครบด้วยนะ) ก็อร่อยไม่ต้องราดน้ำแบบข้าวหมูแดงบ้านเรา พวกผมสั่งมาทั้งหมูแดงและหมูกรอบครับ ไม่ผิดหวังทั้งคู่จริงๆ (รีวิวที่ 2baht)

ก็ขอจบตอนแรกของทริปดองตั้งแต่ปี 2016 ไว้เท่านี้นะครับ ตอนหน้าจะพาไปกิน Lin Heung Tea House (ร้านติ่มซำโบราณเก่าแก่อายุเกิน 100 ปี) และร้านที่ได้ดาวมิชลินอื่นๆ ครับ

ขอขอบคุณ nrad6949 แห่ง 2baht.com ผู้นำทริปและอนุญาตให้ใช้ข้อมูลครับ

Link:
สรุปทริปกินแหลกล้างฮ่องกง ปี 2016