สะพายกล้องเที่ยวไต้หวันวันแรงงาน 2016 #1: สวัสดีไต้หวัน

หลังจากดองจนได้ที่ก็ได้เวลาเขียนทริปเที่ยวประเทศไต้หวัน (Republic of China – ROC – สาธารณรัฐจีน) ที่ผมไปมาตั้งแต่ปี 2016 แล้วครับ ปีนั้นผมไปไต้หวันสองรอบคือรอบแรกช่วงวันแรงงานกับรอบสองช่วงปีใหม่ ตอนแรกก็ว่าจะเขียนรวมกันแต่คิดว่าคงใช้พลังเยอะ ก็เลยเขียนแยกกันดีกว่า อันไหนซ้ำก็เขียนตัดๆ ออกไปบ้างครับ

วันเดือนพฤษภาคมปีนั้นการไปเที่ยวไต้หวันยังต้องไปขอ Visa อยู่ครับ ก็หมดไปหนึ่งวันเต็มๆ ในการไปขอและรับ Visa เพราะเจ้าหน้าที่ทำงานกันช้าเหลือเกิน วันไปพวกเรานั่งเครื่องสายการบิน NokScoot ออกจากดอนเมืองตอนตีสามไปถึงสนามบิน Taoyuan International Airport ตอน 8 โมงเช้าครับ


สนามบินเถาหยวนยามเช้า

ที่ ตม คนเยอะมากครับจนกว่าจะออกมาได้ก็ปาเข้าไป 9 โมง พวกเราเลือกซื้อ sim prepaid แบบ 10 วันของ Chunghwa Telecom (中華電信) ในราคา 500NT เพราะตอนนั้นยังไม่มี Sim2Fly แล้วก็ไปนั่งรถบัสเข้า Taipei Main Station (臺北車站) แล้วนั่งรถ MRT ต่อไปย่าน Ximending (西門町) ซึ่งเป็นย่านที่เหมือนกับข้าวสาร+สยามน่ะครับ เป็นแหล่มรวมร้านค้า, ห้าง, ร้านอาหาร ที่ๆ เด็กวัยรุ่นมาเดินและมี Hostel/Hotel เพียบ พวกเราพักกันที่โรงแรม Diary of Ximen Hotel II ซึ่งเป็นโรงแรมที่ใหญ่มากๆ มี 10 ชั้น ห้องพักห้องน้ำก็สะอาดดี พวกเราพักผ่อนเก็บข้าวเก็บของเสร็จก็ออกไปเดินเล่น เดินหาอะไรกินย่าน Ximending กันครับสำหรับวันแรก


กินไก่ทอดกัน อร่อยๆ


ย่าน Ximending

ที่ย่าน Ximending นี่มีอาหารให้กินทุกรูปแบบครับ ไม่ว่าจะอาหารจีน, อาหารญี่ปุ่น, อาหารฝรั่งและขนมของกินเล่นหลากหลาย มีทั้งแบบเป็นร้านและแผงลอย street food ร้านที่เราไม่พลาดเลยคือร้าน Ay-Chung Flour-Rice Noodle ที่คิวยาวมากกก แต่ก็อร่อยดี ใครชอบรสจัดหรือรสเผ็ดน่าจะชอบเพราะรสมันจัดมาก อีกอย่างที่พวกผมกินคือหวานเย็นต่างๆ ที่ก็ไม่ต่างจากบ้านเราหรอก แต่ว่าเขามีหน้าให้เลือกหลากหลายและชามใหญ่กว่าบ้านเรามากครับ ผมกินกะเดินถ่ายรูปเล่นไปเรื่อย จนฝนตกก็เลยกลับที่พัก


บะหมี่ Ay-Chung


หวานเย็นชามโต


ร้านหวานเย็นครับ เขาให้ลูกค้าเขียนอะไรที่ผนังร้านได้เต็มที่


อันนี้ร้านอาหารจีน


Street Peformance ครับ มีทุกคืนเลย


ไก่ Hot-Star ถูกกว่าบ้านเราเท่าตัว (รสก็เหมือนๆ กันแหละ) แต่ชานมไข่มุกร้าน Hot-star แพงมาก!!

วันที่สองพวกเราตื่นแต่เช้าแล้วไปนั่งรถบัสจาก Taipei Main Station (มีครบทั้งรถไฟ, รถไฟใต้ดิน, รถบัสครับ ครบเครื่องมาที่นี่จบ ไปได้ทุกที่) ไป Yehliu Geopark (野柳地質公園) กัน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง

อุทยาน Yehliu Geopark คือชายหาดที่โดนลมพัดแล้วหินกร่อนเป็นรูปร่างต่างๆ ครับ ผมเคยมารอบนึงแล้ว รอบนี้ถนนหนทางเดินในอุทยานดีขึ้นมาก ที่เหมือนเดิมคือจำนวนคนมาเที่ยวเยอะมากตลอดเวลา, อากาศที่ร้อนและฟ้าที่ไม่ว่าจะมากี่รอบมันก็ปิดอยู่ดี


ประมาณนี้แหละ


มนุษย์ลุง


“Queen’s Head” (女王頭) landmark ของที่นี่ครับ คิวยาวมาก

พอเที่ยวและกินข้าวกันที่ Yehliu เสร็จ พวกผมก็ไปนั่งรถบัสสาย 790 ไปเมือง Keelung (基隆市) เพื่อต่อรถไปเมือง Jiufen (九份) ครับ จาก Yehliu ไป Keelung ใช้เวลา 50 นาที แล้วรอรอสาย 788 อีกนานมาก พอได้รถก็ใช้เวลาอีก 90 นาทีกว่าจะถึง ดังนั้นผมว่าถ้าคุยกะ taxi ได้ก็ไป taxi เถิด ระหว่างทางผมนั่งข้างคนจีนแผ่นดินใหญ่มันชวนคุยด้วยว่าบ้านมันที่ฉงชิงสวยกว่านะ เมือง Jiufen เป็นเมืองเก่าแก่ตั้งแต่สมัยราชวงศ์ชิง ตั้งอยู่บนภูเขาเห็นวิวสวยมาก เมืองนี้ป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีบรรยากาศจีนแบบเก่าๆ ให้ความรู้สึกเหมือนเดินในเมืองในภาพยนต์อนิเมชั่น Spirited Away (แม้ ปู่ Miyazaki จะบอกว่าไม่ได้รับบันดาลใจจากเมืองนี้ก็ตาม) จุดขายคือถนนคนเดินที่คนเยอะมากๆ ร้านค้าก็เยอะ ของแพงแต่ขนมและอาหารอร่อย วิวสวย เดินสนุก


คนเยอะมากกก


บางจุดได้แต่ไหลไปเรื่อยๆ แบบนี้แหละ


หมาก็มี


แมวก็มา


วิวตรงนี้ก็เป็น Landmark อีกที่ครับ

ขากลับพวกเรานั่งรถบัส 1062 กลับไทเป คิวที่ป้ายรถบัสยาวมากจนต้องเดินย้อนไป 1 ป้าย (ไกลสุดๆ) ถึงจะได้นั่ง รถใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึงไทเปครับ ระหว่างรอรถลองถามราคา taxi พบว่าโหดสุดๆ ไปเลยจ้า

วันที่สามพวกเราไปจิบชาที่หมู่บ้านชา Maokong (貓空) กันครับ ก็นั่งรถไฟ Metro ออกไปสุดสายแถวๆ Taipei Zoo แล้วไปขึ้นกระเช้า Maokong Gondola (貓空纜車) ขึ้นไปหมู่บ้านที่อยู่บนเขากัน (ถ้าใช้ EasyCard ก็ขึ้นได้เลย ไม่ต้องซื้อบัตร) พวกผมใช้เวลารอกระเช้าแบบ Crystal อยู่ 40 นาทีก็ได้ขึ้นครับ ไม่สูงมากแบบที่หนองปิงของฮ่องกงเลยไม่เสียวมากเท่าไหร่


ยืนยันความใส

พอขึ้นไปจากสถานีกระเช้าเข้าไปตัวหมู่บ้านที่มีร้านชาเต็มไปหมดนี่ไกลมากครับ ร้านชาเยอะมาก มีหลายราคา มีทั้งแบบ indoor ร้านบรรยากาศจีนๆ หรือร้านแบบยุโรป หรือแบบ outdoor ที่เห็นวิวงามๆ (แต่ฟ้าปิด) ของเมืองไทเป คนที่ไม่กินชาอย่างพวกเรา (แล้วไปทำไมฟ่ะ) ก็เลยกินไอติมชาเขียวกันแทน อร่อยดี ชอบๆ


ไอติมชาเขียว ดีงาม


จักรยานเช่าแถวๆ สถานี Gondola (ลงมาแล้ว)

ลงมาจาก Gondola พวกเราก็นั่งรถไฟไป The National Chiang Kai-shek Memorial Hall (中正紀念堂) ที่นี่ผมมารอบที่สองแล้ว รอบนี้พบว่ามีการปรับปรุงดีขึ้นมาก ด้านในจัดแสดงนิทรรศการเยอะขึ้น ดูสนุกขึ้น รอบนี้โชคดีที่ไปทันการเปลี่ยนการ์ดรอบสุดท้ายพอดี เดินชมใน Hall กันจนจุใจแล้วก็ออกมาถ่ายรูปตรงลานหน้า Hall กัน


ทันเปลี่ยนการ์ดพอดี ^^


ลานหน้า Hall ครับ เหมือนสนามหลวงบ้านเราน่ะ คนมาออกกำลังกาย มาเดินเล่น มาซ้อมเต้นอะไรกันเยอะมาก

พอเย็นๆ หัวค่ำพวกเราก็ไปหาอะไรกินกันที่ตลาดซือต้า (Shi-Da Night Market – 師大夜市) กัน ของกินเยอะมาก พวกเสื้อผ้า กระเป๋าก็เยอะครับ ใครอยากมา shopping พร้อมกินอะไรอร่อยๆ ไปด้วยพลาดไม่ได้เลย จบจากทีนี่พวกผมก็ไปดูรองเท้ากีฬาย่าน Gongguan (公館) ต่อ ย่านนี้ร้านรองเท้ากีฬาเยอะมากครับ ราคาถูกกว่าที่อื่นด้วย (โอนิซึกะถูกกว่าไทยหลักพัน)


บะหมี่เนื้อ


ร้านขายของกินเพียบบ

ขากลับพวกเราเดินเล่นย่าน Ximending กันก่อนเข้าที่พักครับ ก็ซื้อเนื้อย่างกับไส้กรอกที่ขายแผงลอยมากินกัน (ทั้งๆ ที่เพิ่งกินข้าวเย็นมา :p) อร่อยดี ที่ตลกคือเดินๆ อยู่เหมือนมีเทศกิจไต้หวันลงครับ ร้านขายของแผงลอยอยู่ๆ เข็นหนีหายไปหมดเลย แล้วสักพักก็กลับมาใหม่ แปลกดีเหมือนกัน


คล้ายๆ ไส้กรอกอีสานบ้านเราน่ะ


อร่อยดี แต่มันเยอะมาก T^T

ก็ขอจบตอนแรกของทริปไต้หวันวันแรกงานที่ดองไว้ตั้งแต่ปี 2016 ไว้เท่านี้นะครับ ตอนหน้าจะพาไปเที่ยวหมู่บ้านแมวฮูตงกะอุทยานแห่งชาติ Tarako กัน

Link:
สรุปทริปไต้หวัน 2016

2 thoughts on “สะพายกล้องเที่ยวไต้หวันวันแรงงาน 2016 #1: สวัสดีไต้หวัน

Leave a comment

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.