สะพายกล้องเที่ยว Kashmir #3: พาเที่ยวภูเขาหิมะ Sonmarg

ต่อจากตอนที่แล้วนะครับ วันนี้โซฟีพาเราไปภูเขาหิมะ Sonmarg (หรือ Sonmarg) กัน


ขาขึ้นครับ หิมะสูงมากๆ

พวกเรานั่งรถกันไปไกลกว่าเดิม ภูเขาหิมะ Sonmarg นั้นเตี้ยกว่า Gulmarg แต่ว่าวิวสวยกว่าเพราะว่ามันเป็นเวิ้งหิมะกว้างๆ ที่มีภูเขาหิมะล้อมรอบอีกทีครับ หิมะก็หนากว่า ใส่บู๊ตแล้วบางทียังจมเกือบครึ่งหน้าแข้ง (น้ำเข้ารองเท้าด้วย) ชันกว่า (Adventure กว่า) คนก็น้อยกว่า แต่พ่อค้าแม่งเสือกเยอะกว่าและตื้อกว่าด้วย เมื่อวาน Gulmarg ผมโดนตื้อจนตะโกนด่าพ่อค้าไปทีนึง วันนี้พ่อค้ามารุมพวกเราแบบ มึงไม่นั่งเสลทกูกูก็ไม่ออกจากเฟรมรูปมึงจนโดนพวกผมด่าว่าจะแจ้งตำรวจ แม่งเลยวงแตก


ไอ้พวกเวรตะไลนี่แหละ


ผมจับแม่ง Selfi เลยฮะ 55555555555


วู้………………..


รูปหมู่


นี่ไม่ใช่นักท่องเที่ยวนะครับ แม่งพ่อค้า!!! ชวนเราขึ้น Snow Mobile มัน


ฟ้าใสๆ


วู้ วู้ วู้

วันนั้นพวกเราเหนื่อยมากเพราะที่ Sonmarg นั้นถ่ายรูปสนุก + เดินลุยหิมะสนุกจริงๆ ลื่นล้มหรือเดินไปจมหิมะไปครึ่งขาก็บ่อยอยู่ เปียกไปครึ่งตัวเลยครับ ขาลงจากภูเขาคนขับรถก็จอดให้เราแวะชมวิวสวยๆ ระหว่างทางด้วย แล้วก็ลงไปกินข้าวที่ตีนเขากัน

ก่อนกลับโซฟีแวะทุ่ง Mustard Flowers ให้เราครับ ดอกมัสตาดสีเหลืองๆ เต็มทุ่งกับวิวภูเขาด้านหลัง ฟิน แต่พอพ้นทุ่ง Mustard ไป แกให้คนขับพาเรานั่งรถชมเมืองครับ สุเหร่าในเมืองสวยดี อลังการงานสร้างมาก แต่รถโคตรติดดดดดดด ตำรวจตามข้างทางก็ไม่โบกจราจรแต่ถือปืนกลกันทุกคน ตามมุมตึกก็มีทหารใส่เกราะถือปืนกลอยู่ แม่มกดดันโคตรๆ พร้อมๆ กับความรู้สึกว่ารถแม่งจะติดกันไปไหนวะ

คืนวันนั้นลุงเจ้าของเรือบอกว่าจะมี Barbecue มากินกันริมน้ำ ก็นึกว่าแกจะตั้งเตาย่างอะไรกันริมน้ำ แต่เปล่า แกปิ้งมาให้เสร็จแล้ว เป็นแพะย่าง เหนียวๆ ติดฟัน แต่ก่อนอร่อยดี ส่วนอาหารเป็นไก่อบ, มันฝรั่งอบกับผักต้มครับ ทุกอย่างราดซอสแกรวี่สูตรโบราณที่แกบอกว่าสืบทอดกันมาตั้งแต่ก่อนยุคอังกฤษจะเข้ามา อร่อยๆ \ w / พวกเรา Party กันจนดึก ดื่มด่ำกับคืนสุดท้ายที่ Kashmir ครับ


ชมวิวเย็นสุดท้ายที่ Dal Lake


มันฝรั่งอบ


ไก่อบ


คืนสุดท้ายที่ Dal Lake ครับ

วันรุ่งขึ้นพวกเราตื่นเช้ากัน กินอาหารเช้ามื้อสุดท้ายในเรือ (ก็ที่เหลือจากเมื่อวานน่ะ เอามาอุ่น แต่อร่อยเหมือนเดิม) ร่ำลาลุงกับครอบครัวของแก แล้วตอน 11 โมงเรือก็มารับครับ มีคนพายเรือมาใหม่หนึ่งคน แต่โชคดีที่ระหว่างนั่งเรือกลับ เจอคนเก่าพายเรือสวนมาก็เลยให้ทิปไป (ให้ทิปเจ้าประจำที่มาพายส่งเราด้วย) แต่คนใหม่อดนะ (ฮาาา)


ตอนแรกหาไม่เจอ นึกว่ากลายเป็นอาหารไปแล้ว


ชักรูปหมู่ (เสื้อน้ำเงินแถวหน้านั่นคนพายเรือประจำเราครับ)


ผมกับลุง


มุสตาฟา ลูกชายลุงครับ (แต่ไมผมไม่ได้จดชื่อลุงไว้วะ)

และโซฟีก็พาพวกเรากลับสนามบินครับ พวกเราเริ่มเจอนรกแห่ง Security Check ก็วันนั้นแหละ 1 กิโลเมตรก่อนถึงสนามบินมี Security Check รอบ #1 ครับ ทุกคนต้องลงจากรถแล้วเอาทุกอย่างไปสแกน 1 รอบ แล้วค่อยผ่านเข้าสนามบินไปได้ พวกเราร่ำลาโซฟี คนขับรถแล้วก็เข้าไปในสนามบิน (สนามบินที่อินเดียมีแต่คนถือ Boarding Pass ถึงจะเข้าได้ครับ ญาติ/เพื่อนตามเข้าไปไม่ได้)


ผมกับโซฟี แกใจดีนะ จริงจังกับงานดี เล่าเรื่องในมุมประวัติศาสตร์ให้ฟังเยอะเลย


ผมกับคนขับรถผู้เงียบขรึมของเรา

ที่ทางประตูทางเข้าสนามบินเราก็ต้องแสกนของทุกอย่างซ้ำเหมือนกันเป็นครั้งที่ #2 แถวยาวมาก มีแขกต่อยกันให้เราดู พอเข้าไปก็ต้องไปรอคิว Checkin ที่คนเยอะสัดๆ + ช้าโคตรจนพวกเราต้องแซงคิว ไม่งั้นไม่ได้ผ่าน พอ Checkin เสร็จก็ต้องไปตรวจร่ายการกับแสกนกระเป๋าเป็นรอบที่ #3 รอบนี้ต้องรื้อทุกอย่างในกระเป๋าสะพายให้เขาดูเลยเขาถึงยอมปล่อยไปที่ Gate ตรงนี้มีเพื่อนผมโดนเจ้าหน้าที่ไถไป 120 บาทไทย (240 รูปี)ไม่งั้นแม่งไม่คืนกล้องให้ … สัด แล้วพวกเราก็ไปรอกันที่ Gate ซึ่งคนเยอะมาก ร้านขายอาหารก็มีแต่ไม่อร่อย เจ้าหน้าที่เดินถือปืนกลตลอด ห้ามถ่ายรูป (แต่ผมก็แอบถ่ายมาอะนะ)

แล้วพวกเราก็นั่งเครื่องกลับ New Delhi ครับ ก่อนขึ้นเครื่องก็ตรวจเป็นรอบที่ #4 เหมือนเดิม ซึ่งก็ไม่เข้าใจว่าแม่งจะตรวจซ้ำไปซ้ำมาทำไมเยอะแยะแบบไม่มีประสิทธิภาพด้วย – -” เครื่องใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึง New Delhi โดยปลอดภัยครับ

ก็ขอจบตอนนี้ไว้เท่านี้นะครับ ตอนหน้าจะพาไปส่องวิถีชีวิตชาวบ้านใน Dal Lake (จากหลายๆ วัน) และเป็น Blog สุดท้ายของทริป Kashmir ครับ

Link:
สรุปทริป เลห์ – ศรีนาคา

3 thoughts on “สะพายกล้องเที่ยว Kashmir #3: พาเที่ยวภูเขาหิมะ Sonmarg

Leave a comment

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.