ตะลุยเดี่ยวเที่ยวโตเกียว #4.2: บ๊ายบายโตเกียว

ต่อจากตอนที่แล้วนะครับ ตอนนี้จะพาเดินแถวๆ ย่านร้านค้าของวัด Sensō-ji แล้วก็กลับไทยล่ะ ผมมีเวลาแค่ช่วงเช้าของวันในนั้นในการเที่ยวโตเกียวก่อนกลับ ซึ่งก็เป็นเวลาพีคสำหรับนักท่องเทียวพอดีเหมือนกัน

ที่ผมชอบก็คือบรรดาร้านค้าตรงหน้าวัดก็ตกแต่งร้านให้เข้ากับวัดเช่นกัน

พวกขนมก็เยอะครับ ผมซื้อขนมของฝาก (+ขนมกินเอง) แถวๆ นี้อยู่เหมือนกัน



ผมออกมาเดินถ่ายรูป (จริงๆ หาของกิน) แถวๆ หน้าวัดที่มีคนมาถ่ายรูปกับโคมไฟแดงๆ ที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของวัดไปแล้วเยอะมาก (โคมตรงประตูด้านในวัดก็เยอะไม่แพ้กัน) ตรงนี้ก็ถ่ายรูปสนุกดี

ผมเจอก๊วนถ่ายภาพชาวญี่ปุ่นยืนๆ คุยกันอยู่ ในกล้องมีทั้งกล้อง medium format, Leica, กล้องฟิล์มอื่นๆ อีกเพียบ ผมเลยไปขอถ่ายรูปกล้อง Pentax Medium Format ของพี่คนนึงในนั้นมา เขาก็ใจดีให้ถ่ายรูปด้วย \ w / (มานึกย้อนไปทีหลังน่าขอถ่ายรูปมาเยอะกว่านี้)

ตรงแถวๆ นั้นมีบริการรถลากแบบญี่ปุ่นโบราณด้วยครับ เห็นคนใช้บริการกันเยอะทีเดียว

แล้วผมก็เดินกลับ Hostel ล่ะ ขากลับเลือกเดินกลับอีกทางนึงดู พบว่ามันเป็นถนนคนเดินที่มีร้านค้าเพียบเลย ระหว่างทางก็มีกิจกรรมจากศิลปินเปิดหมวกด้วย น่าเสียดายจริงๆ ที่มาเจอวันกลับ T^T


เติมพลังแป๊บ

ผมเดินกลับไปเอากระเป๋าที่ Hostel Khaosan Tokyo Samurai แล้วไปสนามบินครับ นี่เป็น Hostel เล็กๆ ที่สะดวกสบาย สะอาด เดินทางสะดวก พนักงานก็นิสัยดี ถ้าชอบนอน Hostel ก็ที่นี่เป็นทางเลือกที่ดีเลยล่ะ


เตียงผม (ตู้ล่าง)

ขากลับผมแบกกระเป๋านั่งรถไฟ Tokyo Metro Ginza Line ไปลง UENO แล้วก็หาที่คืนตั๋ว plasmo (หายากมาก – -) แล้วนั่ง Keisei Skyliner จาก KEISEI-UENO ไปสนามบิน Narita International Airport (成田国際空港) ครับ (ใช้เวลา 43 นาทีถึงสนามบิน) มีเรื่องหงุดหงิดตอนซื้อตั๋วเล็กน้อยเพราะช่องขายตั๋วมี 1 ช่องแต่ฝรั่งที่ต่อคิวแม่งเสือกแต่คิวเป็นสองแถวมาชนกันเองซะงั้น แม่งเลยมีดราม่ากันเองอีก – –

เข้ามาด้านใน ต.ม.กับสแกนกระเป๋ารวดเร็วดีครับ (ชอบ) แต่ Duty free ไม่ค่อยมีอะไรขายเท่าไหร่นัก (ใช้คำว่าโคตรน้อยก็คงได้) น้ำเปล่าให้กินฟรียังไม่มีเลย ผมตอนนั้นหิวมากจะกินราเมง (โคตรแพง) ก็ไม่มีที่นั่ง สุดท้ายก็เลยกิน Mc เอา อิ่มและมีน้ำกิน 5555

แล้วผมก็ไปรอแถวๆ gate ซึ่งทั้งเวิ้งก็เป็นของ Delta หมดเลย

เครื่องขากลับก็ดีงามเช่นเดิม อาหารเพียบ น้ำเพียบ มีหนังให้ดูสมเป็น full service (แต่ eco นะ) แต่ว่าผมได้ที่นั่งท้ายๆ ลำที่แอร์มันตกหัวแบบปรับไม่ได้เลย ก็นั่งหนาวกันไปจนกลับไทยอย่างสวัสดิภาพครับ

ทริปนี้เป็นทริปการเทียวโตเกียวครั้งแรกของผมที่สนุกมากครับ มันเที่ยวง่ายกว่าที่คิดเยอะ ปลอดภัย ค่าครองชีพสูงและแพง มันเป็นเมืองที่ถ่ายรูปสนุกมาก มันไม่ใช่ครั้งสุดท้ายของผมกับโตเกียวแน่นอนเพราะว่ายังมีอีกหลายอีกเยอะที่ในโตเกียวที่ผมอยากไป มีหลายๆ อย่างที่อยากทำและอยากกิน (ฮาา) ก็ไว้แก้ตัวครั้งหน้าล่ะกัน ปีนี้ (2017) คงไม่มีเวลาไปแล้วล่ะ ก็ขอจบทริปโตเกียวของปี 2016 ไว้เท่านี้ก่อนนะครับ

Link:
สรุปทริป ตะลุยเดี่ยวเที่ยวโตเกียว

ป.ล. นี่เป็นทริปแรกที่เขียน blog จบตั้งแต่ปี 2016!!!

One thought on “ตะลุยเดี่ยวเที่ยวโตเกียว #4.2: บ๊ายบายโตเกียว

Leave a comment

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.