สรุปทริปกินแหลกล้างฮ่องกง

เมื่อวันที่ 10 ถึง 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ผมไปเที่ยว Hong Kong มาครับ รอบนี้เป็นทริปกินแหลกคล้ายๆ รอบที่แล้วครับ แต่รอบนี้มีนักเขียน-นักกินแห่ง 2baht.com พาไป จึงมีแต่ร้านเก่าแก่ชื่อดังของชาวฮ่องกง, ร้านติดดาว Michelin และร้าน “แนะนำ” ซึ่งมีทั้งร้านบ้านๆ ข้างถนน, แผงลอยรวมไปถึงร้านที่หรูๆ ต่อคิวกินบนห้างครับ (รอบที่แล้วเน้นร้านคนไทยนิยมเป็นหลัก) กลับมาอ้วนตัวกลมกว่าเดิมจนเพื่อนทักอ่ะ


  1. วันที่ 10 พฤศจิกายน
    • นั่งเครื่องสายการบิน Emirates ไปสนามบิน Hong Kong International Airport ตอนเย็นๆ
    • นั่ง Airport Express + รถบัสฟรีไปย่าน Jordan แล้วเข้าพักที่ Just Hotel
    • ไปกินบะหมี่ร้าน Mak Noodle ตรง Jordan ดีงามมมม
    • ไปกินบะหมี่ร้าน Block 18 Doggie’s Noodle (Michelin Recommended Street Food Guide)
    • ไปของหวานร้าน Kai Kai Dessert (Michelin Recommended Street Food Guide)
  2. วันที่ 11 พฤศจิกายน
    • ตื่นแต่เช้าาาาาาตรู่ แล้วบึ่งไปร้าน Sun Hing ที่ย่าน Kenedy Town (CNN ยกให้เป็น “The best Hong Kong dim sum”)
    • ไปชมตึกสวยๆ ที่ Hong Kong University
    • ไปจิบกาแฟ + รอเพื่อนๆ ที่ IFC Mall (พร้อมบูชา MacBook แบบ non-touchbar ใหม่ที่ Apple Store)
    • ลองกินไอติมเจลลาโตร้าน Grom อร่อยยยย
    • ไปกินห่านย่างร้าน Yat Lok Restaurant (Michelin 1 ดาว)
    • ไปกินข้าวหมูแดงเทพ Joy Hing (อดีต Michelin 1 ดาวปี 2014 )
    • เดินเล่นย่าน Causeway Bay เที่ยวห้าง Hysan Place กับ Times Square
    • ไปกิน Ho Hung Kee บะหมี่เกี๊ยว Michelin 1 ดาว ที่ Hysan Place
    • ไปชมการแสดงไฟ A Symphony of Lights แถวๆ Star Ferry ที่ฝั่ง Tsim Sha Tsui
    • เดินเล่นตลาดย่าน Jordan
  3. วันที่ 12 พฤศจิกายน
    • ตื่นแต่เช้าาาาาาตรู่ แล้วบึ่งไปร้าน Lin Heung Tea House ที่ย่าน Central (ร้านติ่มซำโบราณเก่าแก่อายุเกิน 100 ปี บรรยากาศโล้งเล้งได้จี๊น จีนมากๆ ครับ)
    • ไปนั่งเรือที่ Star Ferry ตรง IFC เพื่อข้ามกลับมาฝั่ง Kowloon
    • ไปกินขนมร้าน Kwan Kee Store (Michelin Recommended Street Food Guide) ที่ย่าน Sham Shui Po
    • เดินไปกินสุดยอดเต้าหู้ร้าน Kung Wo Dou Bun Chong (Michelin Recommended Street Food Guide) ต่อเพราะอยู่ใกล้ๆ กัน
    • เดินต่อไปกินติ่มซำร้าน Tim Ho Wan (Michelin 1 ดาว) รอคิวตั้ง 1 ชั่วโมง อาหารดีกว่าไทยทุกอย่าง!!!
    • ไปกินปอเปี้ยะทอดไส้มะม่วงที่ร้าน Happy Together
    • ไปเดินเล่นย่าน Mong Kok (มงก๊ก) แล้วไปซื้อกาแฟที่ร้าน The Cupping Room ที่ย่าน Wan Chai
    • กลับไปนั่งเล่นที่ Causeway Bay
    • ไปกินห่านย่างที่ร้าน Kam’s Roast Goose (Michelin 1 ดาว)
    • ไปกินพุดดี้งแสนอร่อยที่ร้าน Australia Dairy Company
  4. วันที่ 13 พฤศจิกายน
    • ตื่นสายๆ ไปกินโจ๊กร้าน Delicious Congee ตรง Jordan นั่นแหละ
    • ไปซื้อของฝากที่ย่านมงก๊ก แล้วไป Mi Store แถวๆ นั้น
    • กลับ Jordan ไปเก็บของแล้ว checkout ออกมา
    • นั่งรถใต้ดินไปสถานี Central แล้วไป drop กระเป๋า + checkout ที่ IFC Mall เลย สะดวกมากกก
    • จะไปกินหมูกรอบแสนอร่อยที่ Kam’s Roast Goose แต่ว่าผมรอ 1 ชั่วโมงแล้วไม่ได้เข้า เลยเทแม่งล่ะ ออกมาหาอะไรกินร้านแถวๆ นั้นแทน จบ อิ่ม
    • นั่งรถรางเล่นๆ ไป Central
    • เดินเล่นย่าน Central ไปโผล่ Statue Square แบบงงๆ
    • เดินกลับไป IFC Mall แล้วนั่ง Airport Express ไปสนามบิน
    • นั่ง Emirates บินกลับไทยโดยสวัสดิภาพ

Review อาหาร: ตอนที่ 1, ตอนที่ 2, ตอนที่ 3
Blog เที่ยว: ตอนที่ 1, ตอนที่ 2

ทริปนี้เป็นครั้งแรกที่ผมนั่งสายการบิน Emirates ครับ ก็ดีงามสมเป็น Full Service เครื่องและอาหารอลังกว่า Delta ที่ไปญี่ปุ่นเสียอีก ที่นั่งก็มีทั้งปลั้กไฟและรูเสียบ USB (ยกเว้นบางที่นั่งจะไม่มีแบบไม่มี pattern เท่าไหร่) จะติดแค่ขาไปจอ interactive ตัว touch มันกากมาก (ผมชอบ Delta ที่ขึ้นมาก็แจกน้ำให้ผู้โดยสารเลย 1 ขวดมากกว่านิดๆ) โดยรวมแล้วผมชอบเลย ^^ ก่อนไปผมไปทำบัตรเครดิต JCB ไว้ด้วยก็เลยได้เข้าเลาจน์ที่สนามบิน ก็แปลกใหม่ดีครับ

รอบนี้เป็นการไปฮ่องกงครั้งที่ 4 ของผมครับ ฮ่องกงยังคงเที่ยวง่าย เดินทางสะดวก อาหารอร่อย, โคตรวุ่นวายและห้องน้ำห้องนอนอะไรต่างๆ แคบๆ เหมือนเดิม มันเป็นประเทศ (หรือเมือง) ที่เดินเที่ยวได้ตั้งแต่เช้าตรู่ไปยันค่ำๆ ดึกๆ เลย แต่ละวันก็เลยเที่ยวกันซะแบบหมดพลังกลับไป Hostel หลับเป็นตาย ซึ่งก็สวนทางกับความตั้งใจที่จะเที่ยวชิลๆ นั่งแช่ ร้านกาแฟนานๆ ไปอีก (เมื่อไหร่จะทำได้ฟ่ะ) T^T คือสำหรับผมแล้วผมรู้สึกว่าฮ่องกงเป็นประเทศที่เที่ยวง่าย ไม่ต้องวางแผนมากอ่ะครับ คือจองตั๋ว จองที่พักก็จบล่ะ เที่ยวๆ ไปไม่ต้องคิดมากไม่ต้องมีแผนหรอก สบาย

เรื่องการเดินทางผมโหลด App Citymapper เพื่อนำทางซึ่งมันก็ใช้ได้ดีเยี่ยมเลยครับ แนะนำตัวนี้เลย ส่วน Internet ผมใช้ sim2fly เหมือนเดิม ซึ่งก็จับสัญญานเครื่อข่าย CLS ที่ฮ่องกงชัดเจนดี แต่มีปัญหานิดหน่อยเพราะว่าผมต้องเติมเงิน 350 บาทเพื่อเปิดโปรต่อ 3GB-8 วัน – 349 บาทซึ่งผมก็เติมเงินก่อนไปประมาณ 1 อาทิตย์ แต่พอจะเปิดเงินแม่งเหลือ 319 บาทซะงั้น ซึ่งทาง AIS ที่สุวรรณภูมิก็ให้คำตอบผมไม่ได้ บอกแค่ว่า Android เป็นกันบ่อย ผมก็เลยต้องเติมเงินไปอีก 50 บาท แม่ง สัด ส่วนการเดินทางผมก็ใช้ Airport Express Travel Pass ที่รวม Airport Express 2 เที่ยว + unlimit MTR 3 วัน (72 ชั่วโมง) ในราคา 350 HKD ซึ่งคุ้มมากครับ

เนื่องด้วยทริปนี้เป็นทริปกิน อาหารการกินในทริปนี้จึงอุดมสมบูรณ์มาก จัดเต็มกว่าทริปที่แล้วเยอะ กินกันตลอดวันเลยทีเดียว ซึ่งทุกร้านก็ดีงามไม่แพ้กันเลยทั้งร้านหรูหราและร้านริมถนนครับ ถ้าใครจะไปสายกินไปกินตามได้เลย ไม่ผิดหวัง (แต่มีบางร้านถ้ารู้ภาษาจีนจะง่ายขึ้นเยอะ) แต่เพราะไปเน้นกิน เลยไม่ได้ถ่ายรูปพวก landmark ในฮ่องกงสักเท่าไหร่นัก (ได้ไปแต่ A Symphony of Lights) จริงๆ อยากไป The Peak กับแก้ตัว Sky100 อีกทีแฮะ

ที่น่าสนใจคือวันสุดท้ายของทริปที่ผมเจอคนอินโดนีเซียจำนวนมากมาทำกิจกรรมกันย่านมงก๊กทั้งปูเสื่อนั่งคุยกัน เปิดตลาดเล็กๆ ซึ่งก็มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลกันที่กันทางให้อยูห่างๆ ขณะเดียวกันตรงย่าน Central ก็มีชาวฟิลิปปินส์จำนวนมากมาทำกิจกรรมเช่นกัน แต่ว่าพวกเขา creative กว่าเยอะเพราะมีทั้งเดินแบบ, เต้นรำ ซึ่งก็น่าสนใจดีกว่าครั้งก่อนที่มาไม่เคยเจอแบบนี้เลยครับ (ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงซะด้วย) ผมก็เข้าไปเดินดูได้ตามปกติ ปลอดภัยดีครับ

สรุปแล้วทริปนี้เป็นอีกทริปที่อิ่มมากๆ, เที่ยวสนุกและเหนื่อยโคตรๆ ถามว่าจะไปอีกไหม ก็ถ้ามีโอกาสก็ไปอีกครับ คือมันเที่ยวง่ายๆ สบายๆ ไม่ต้องคิดมากแถมอาหารอร่อยด้วยครับ

ป.ล. ค่าใช้จ่ายทั้งหมดผมแลกไป 2660 HKD (11996.60 THB ~ เรท 4.51) + 220 HKD (996 THB ~ เรท 4.53) เหลือ 812 HKD สรุปใช้ไป 2068 HKD = 9368.04 THB ครับ (ไม่รวมที่รูดบัตรเครดิต, ค่าโรงแรมและเครื่องบิน) เที่ยวประเทศนี้ถูกใช้ได้เลย