ต่อจากตอนที่แล้ว ผมขึ้นมาถึง Glover Garden กันล่ะ เข้าทางประตูด้านหลัง ค่าเข้า 600 เยนครับ
Glover Garden นี้ป็นหมู่บ้านของเหล่านักธุรกิจชาวตะวันตกที่มาทำธุรกิจที่ญี่ปุ่นตั้งแต่สมัย 186x ครับ มีบ้านของครอบครัวต่างๆ และสวนสาธารณะ ปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้เข้าชมข้าวของเครื่องใช้และสภาพบ้านในสมัยนั้น บริเวณกว้างขวางมาก มีบ้านหลายหลังให้เข้าชมเลย วิวก็สวย ถ้าแดดดีๆ ก็น่าจะดีกว่านี้อีกเยอะเลย
บ้านของตระกูล Ringer
Former Steele Memorial Academy บ้านนี้ด้านในแสดงเรือจำลองครับ
ดอกไม้
Softcream 500 เยนที่อร่อยโคตรๆ เลย
หมู่บ้านนี้ได้รับการอ้างอิงถึงในอุปรากรเรื่อง Madame Butterfly ของ Giacomo Puccini เพราะว่าบ้านพักที่ตัวเอกในเรื่องอยู่ก็มีต้นแบบมาจากสวน Glover Garden อันนี้ ก็เลยมีรูปปั้น Puccini และ Tamaki Miura นักแสดงผู้รับบทนำในสวนนี้ด้วยครับ
ด้านหน้าสุดของสวน (แต่เพราะผมเข้าด้านหลังเลยมาถึงเป็นที่สุดท้าย) เป็นบ้านพักของตระกูล Glover ผู้ริเริ่มสร้างสวนแห่งนี้ครับ วันที่ไปมีรายการทีวีมาถ่ายด้วยล่ะ
รูปปั้น Thomas Blake Glover ครับ
ตรงสวนแถวๆ บ้านตระกูล Glover นี่ถ้าหาดีๆ จะเจอหินที่ปูพื้นเป็นรูปหัวใจอยู่แผ่นนึงด้วย ผมก็ฟลุ๊กๆ เจออ่ะ พอเจอปุ๊บนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ มารุมเพียบเลย
วิวริมอ่านนางาซากิ ฝนตกทั้งวันเลย
ผมใช้เวลาอยู่ Glover Garden อยู่ถึงสี่โมงครึ่งก็รีบกลับล่ะ เพราะต้องรีบกลับไปรถไฟรอบ 5 โมง 50
ขากลับลงมาที่สถานีรถราง Ishibasi พบว่าทางเดินมันสั้นกว่าจาก Ouratenshudo-shita ไป Glover Garden อีกครับ – -” ระหว่างทางมีร้านขายของฝากด้วย พนักงานสื่อสารภาษาอังกฤษใช้ได้เลย ตอนผมควักปากกา Note 2 ออกมาจดค่าใช้จ่ายนี้แตกตื่นกันทั้งร้านเลยว่ามีปากกาด้วยยย อ้อ ทางเดินลงมาสถานีผ่าน Ōura Cathedral ด้วยนะครับ เผื่อใครอยากแวะ
ผมกลับมาถึงสถานี JR Nagasaki ตอนประมาณห้าโมงครึ่งกว่า เวลายังเหลือ ก็เลยซื้อขนมนิดหน่อยกับข้าวกล่องหมูสามชั้นที่ลุง @pittaya บอกว่าขึ้นชื่อ (คือกินตามเขานั่นแหละ) ติดตัวขึ้นไปกินบนรถด้วย
ผมกลับขบวนนี้ครับ รถไฟ LTD. EXP KAMOME 40 จริงๆ ขึ้นไปนั่งบนรถแล้วล่ะ แต่เห็นเวลายังเหลือเลยรีบวิ่งลงมาถ่ายรูปก่อนอีกที
ข้าวกล่อง “คาคุนิเมชิ” เป็นข้าวราดหมูสามชั้น+น้ำพะโล้ครับ อร่อยดี เสียดายที่เย็นไปหน่อยเลยจืดๆ ตามที่ลุง @pittaya กล่าวไว้ (แล้วจะซื้อตามทำไมวะ)
ผมกลับมาถึง Hakata ตอน 19.51 ตรงตามเวลาที่ระบุในตั๋วมาก ดีจัง
มีร้านริรัคคุมะด้วย กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ผมไปดูร้าน Yodobashi ที่อยู่สถานีครับ (เดินออกทางที่เลยร้านริรัคคุมะไป) ร้านใหญ่มากกกกกกกกกกกก มีทั้งโซนนาฬิกา tablet กล้อง มือถือ เครื่องใช้ไฟฟ้า gadget ทุกอย่างเพียบเลยยยยยยยยยย กล้องราคาถูกกว่าไทยพอดูเลย ส่วนกระเป๋ากล้องและ accessories ต่างๆ นั้นพอๆ กับไทยหรือเผลอๆ จะแพงกว่าด้วยครับ มีกล้องให้ลองเล่นเยอะ brochure ก็เพียบ ผมเก็บมาเยอะเลย ผมสอยเจ้า LUMIX G VARIO 35-100mm F4.0-5.6 ASPH. MEGA O.I.S. มาราคาที่ถูกกว่าไทยหลักหมื่นเพราะว่ามันลดจากราคาตั้ง + ลดจากบัตรเครดิต Visa + ลด tax นักท่องเที่ยวทันทีอีก (ใช้ passport ด้วย) คุ้มครับ
ผมอยู่ใน Yodobashi นานมาก ออกมาก็ดึกแล้ว ตอนแรกว่าจะหาอะไรกินแต่ว่าเจ้าข้าวกล่องนั่นมันให้เยอะมากจนยังอิ่มอยู่เลยครับ ก็เลยเดินเล่นในสถานี Hakata แล้วก็กลับ Hostel
แถวๆ Yodobashi ร้านอาหารก็เยอะนะ
เมืองนี้จักรยานเพียบครับ พวกเสือเหมือบเสียภูเขาก็เยอะ ไม่เหมือนฮอกไกโดที่เห็นแต่จักรยานแม่บ้าน
กลับมาถึง Hostel ผมก็ลองเครื่องดื่มกระป๋องแปลกๆ จากตู้กดในห้องครับ คล้ายๆ เป็นเหล้าผสมที่แรงกว่าที่คิดเยอะเลย
ก็ขอจบตอนนี้ไว้เท่านี้ก่อนนะครับ
Link:
– สรุปทริปคิวชู
2 thoughts on “สะพายกล้องเที่ยวคิวชู #2.3: พาเที่ยว Glover Garden”