สะพายกล้องเที่ยวคิวชู #1.3: พาเที่ยว Fukuoka Tower

ต่อจากตอนที่แล้วนะครับ พวกเรากลับมาที่สถานี Nishitetsu Fukuoka (Tenjin) อีกรอบนึงแล้วผมก็หาทางไปตึก Vivre แต่ก็หลงกับตรงนี้นานมาก คือสถานี Nishitetsu แม่งใหญ่ แล้ว Tenjin แม่งก็โคตรใหญ่เลย ขนาดเปิด google map ยังงง

อันนี้คือหน้าตาของบัตร 1 Day Pass ครับ ขึ้นได้ทั้งรถไฟกับรถเมล์เลย

ต้องผ่าน Underground mall ใหม่ด้วย

ห้าง Vivre นี่ก็เป็นห้างธรรมดาๆ แหละครับ มีชั้นนึงมีแต่พวกของการ์ตูนก็เลยอยากไปดู (จริงๆ คือตามรีวิวของ @pittaya ดื้อๆ นั่นแหละ) ชั้นการ์ตูนก็มีร้านใหญ่มากๆ อยู่ 1 ร้าน มีทั้งการ์ตูนและของที่ระลึกต่างๆ ครับ การ์ตูนส่วนใหญ่ก็ล้ำไทยไปหลายเล่มหรือไม่ก็มี Collector Edition ที่ไทยยังไม่เอาเข้ามา ดูแล้วน่าสอยกลับบ้านยิ่งนัก พวกตู้จากาปองก็เยอะ แต่ไม่มี One Piece นะ

JoJo’s Bizarre Adventure ครบเซ็ทแล้วยังมี Collector Edition อยากได้มากกกกกกกกกกกก

เดินเสร็จผมก็ไป Fukuoka Tower (福岡タワ) ต่อครับ มันอยู่ไกลจากตรง Tenjin พอดูทีเดียว วิธีไปมา 2 วิธีที่จดมาคือ

1. นั่งรถไฟใต้ดินไปสถานีนิชิจิน (Nishijin) แล้วเดินต่อประมาณ 20 นาที
2. นั่งรถบัสเลข 5 จากสถานีรถไฟฮากาตะแล้วเดินต่อประมาณ 5 นาที่

ด้วยความที่ไม่ชัวร์เรื่องรถเมล์ก็เลยนั่งรถไฟดีกว่า ยอมเดินเอาหน่อย ซึ่งสุดท้ายก็พบว่าแม่งเป็นวิธีที่ผิด …. ผมนั่งรถไฟจาก Tenjin ไป Nishijin แล้วก็เดินตาม google map เอาครับ

โผล่ออกมาแล้วฝนยังตกอยู่

ย่าน Nishijin ที่ขึ้นมานี่เหมือนจะมีแต่ office และมหาลัยครับ คือไม่มีอะไรเลย ไม่มีใครเดินไป Fukuoka Tower ด้วย ยิ่งเดินคนก็ยิ่งน้อย – -”

ฝนตก

กว่าจะมาถึงตรงนี้ก็เกินครึ่งชั่วโมงครับ

สรุปแล้วการเดินจากสถานี Nishijin ไปถึง Fukuoka Tower นี่เกิน 40 นาทีแน่นอนครับ พอผมเดินมาถึงถนนหน้าตึกก็พบว่ามีป้ายรถเมล์อยู่ทั้งสองฝั่งพอดี เลยลองเดินไปถามคนที่รอว่าทางนี้ไป Hakata ใช่ไหมก็ได้ความว่าป้ายฝั่งเดียวกับตึกคือฝั่งไป Hakata ส่วนป้ายฝั่งตรงข้ามคือมาจาก Hakata ทีนี้ขากลับก็สบายล่ะ

ข้างในมี 7-11 ที่กำลังโปรโมท single ใหม่ของวง Nogizaka46

Fukuoka Tower นี่ค่าขึ้นไปจุดชมวิว 800 เยน แต่ถ้าแสดง passport ให้ดูจะได้ส่วนลดนักท่องเที่ยวเหลือ 640 เยนครับ ตอนขึ้นไปก็จะมีพนักงานกดลิพท์มาพาเราขึ้นไปเหมือนจุดชมวิวอื่นๆ ในญี่ปุ่น

จุดชมวิวมี 3 ชั้นครับ ชั้นที่สูงที่สุดอยู่ที่ 123 เมตร ขึ้นไปก็เจอแต่คนจีนกับเกาหลีเดินกันอยู่เต็มชั้นแล้ว ตอนขึ้นไปเพิ่งจะเย็นๆ ฟ้าปิดขาวโล่งทุกมุมเลยครับ ก็เลยเดินถ่ายรูปไปงั้นๆ รอเวลาพระอาทิตย์ตกปกติมันจะสวยนะ วิวแบบนี้

แต่วันนั้นมันก็ไม่สวยเพราะว่าฟ้าก็ยังปิดอยู่แทบไม่เห็นอะไรเลย – -” แถมตึกรามบ้านช่องตรงนั้นก็ไม่ค่อยสวยอีกต่างหาก คือไอ้ตึกนี่ผมว่าทั้งโลเคชั่นทั้งตัวตึกมันไม่สวยเท่าไหร่อ่ะครับ

ลงมาล่ะ

ส่วนตัวแล้วผมว่าตึกและวิวที่นี่ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่แฮะ ถ้ามากลางวันฟ้าเปิดๆ มีวิวทะเลน่าจะดีกว่านี้ (มั้ง) ลงมาแล้วผมก็ไปนั่งรถเมล์สาย 306 กลับ Hakata ครับ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ลงป้ายสุดท้ายเลย

ผมเดินกลับไปใน Hakata Station เพื่อหาอะไรกินแต่ว่าร้านส่วนใหญ่ก็ปิดหมดแล้ว ก็เลยไปกินร้าน 博多一幸舎 (Hakata Ikkoucha) ที่อยู่ตรง DEITOS ชั้น 2 ซึ่งโซนร้านอาหารตรงนั้น (ชั้น 1 และ 2) จะปิดประมาณ 5 ทุ่มครับ

ร้านนี้ก็เป็นราเมงตู้กดเช่นกันครับ มีพนักงานคอยช่วยเรากดอยู่ เรากดตู้เสร็จก็รับบัตรมา เขาจะพาเราไปนั่งรอแล้วก็เอาอาหารมาเสิร์ฟ ผมสั่งชุดแพงสุดเลยครับ 1300 เยน ได้ราเมงฮากะตะกับเกี๊ยวซ่ามากิน

ราเมงอร่อยดี หมูเยอะมากก ซุปก็อร่อยแบบไม่เค็ม แต่ผักมันเหนียวๆ ไม่ค่อยอร่อยครับ สรุปคือเส้น ซุป หมูเลอเลิศ แต่ผักไม่อร่อยเลย – -” (แล้วแม่งเยอะด้วย)

เกี๊ยว อร่อยดี

กินเสร็จผมก็กลับ Hostel ขึ้นไปห้องก็พบว่าเขายกกระเป๋าผมขึ้นมาที่ห้องให้แล้ว ดีจัง ^^ ห้องที่ผมจองเป็นห้องใหญ่แบบ 10 แคปซูลครับ โชคดีได้อันล่างพอดีแถมติดห้องน้ำ (ห้องอาบน้ำสอง – ห้องส้วมสอง) สบายเลย เพื่อนร่วมห้องส่วนใหญ่ก็เป็นจีนกับเกาหลี ส่วนแคปซูลนี่จริงๆ ก็เป็นช่องใหญ่ๆ 4 เหลี่ยมที่กว้างพอให้นั่งข้างในได้แหละครับ มี locker, ปลั๊กไฟและโคมไฟพร้อม ไม่อับเท่าไหร่ แต่ว่าไม่มีที่แขวนเสื้อผ้าส่วนตัวให้ ผมก็ต้องไปแย่งชิงราวตากรวมกับพ่อเกาหลีที่แม่งแขวนของมันไว้ซะเต็มแทน – -”

ก็ขอจบวันแรกไว้เท่านี้ก่อนครับ ฝากไว้ด้วยรูปอาหารลดราคาช่วง Hakata Station ใกล้ปิดครับ ลดเยอะดีจัง

Link:
– สรุปทริปคิวชู