สะพายกล้องเที่ยว KL #2.3: บ๊ายบาย KL

ต่อจากตอนที่แล้วนะครับ พอผมมาถึงสถานี Pasar Seni แล้วผมก็รู้สึกว่าเวลายังเหลือก็เลยลองเดินๆ ไป National Mosque of Malaysia และ Kuala Lumpur Railway Station ที่เห็นอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้าครับ

KL Trip_day4_81

ดูจากสถานีเหมือนจะไม่ไกล แต่จริงๆ เดินไปลำบากใช้ได้ครับ คือมันมีทางเชื่อมจากสถานีรถไฟฟ้าไป Kuala Lumpur Railway Station อยู่ แต่จากนั้นจะไป National Mosque of Malaysia ต่อเนี่ย มันดูไม่มีทางเดินไปนอกจากจะทะลุไปซึ่งผมก็คิดว่าถ้าไม่ซื้อตั๋วก็เข้าไม่ได้ ผมเลยเดินอ้อมไปออกตรงอาคารจอดรถข้างๆ แล้วเดินอ้อมออกมาถนนใหญ่แล้วเดินข้ามถนนไปซึ่งแม่งข้ามโคตรยากเลยยยกว่าจะถึง

KL Trip_day4_83

KL Trip_day4_85

KL Trip_day4_86
Continue reading “สะพายกล้องเที่ยว KL #2.3: บ๊ายบาย KL”

The Tale of the Princess Kaguya

The Tale of the Princess Kaguya เป็นหนังเรื่องก่อนสุดท้ายของสตูดิโอ Ghibli กำกับและเขียนบทโดย Isao Takahata ผู้สร้าง My Neighbors the Yamadas ครับ

The Tale of the Princess Kaguya poster

Animation เรื่องนี้ดัดแปลงจากตำนานพื้นบ้านของญี่ปุ่นเรื่อง “คนตัดไผ่” เล่าถึงชายแก่ผู้มีอาชีพตัดไผ่ไปเจอเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ในไผ่ปล้องนึงที่เขาตัด เขาเชื่อว่าเธอคือเจ้าหญิงที่สวรรค์ส่งมาจึงพาเธอกลับบ้านไปเลี้ยงในฐานะลูกสาว ซึ่งเธอก็เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วและมีชีวิตที่มีความสุขดี จนกระทั่งพ่อและแม่ของเธอพาเธอเข้าเมืองหลวงเพื่อไปใช้ชีวิตให้สมฐานะเจ้าหญิงซึ่งทำให้ชีวิตเธอเปลี่ยนไปตลอดกาล

ผมสนใจ animation เรื่องนี้ตั้งแต่เห็นตัวอย่างแล้วครับ คือน่าสนใจตรงที่ภาพเหมือนภาพระบายสีน้ำทั้งเรื่อง ซึ่งพอดูจริงๆ แล้วพบว่างานด้านภาพแบบนี้มันสวยและทรงพลังมากๆ ไม่มีอะไรติดขัดเลย ตัวหนังดูแล้วรู้สึกว่าหนังมันสวยงาม ทรงพลังและเศร้ามากๆ คือไม่ถึงกับอิ่มใจแบบ Spirit Away, Totoro (ถึงจะเศร้าแต่ก็ไม่หดหู่แบบเรื่อง the wind rises ) แต่ดูแล้วรู้สึกชอบมาก นอกจากนี้ตัวหนังยังแสดงให้เห็นถึงวิธีชีวิตและวัฒนธรรมของคนญี่ปุ่นในสมัยโบราณเยอะเลยครับ

ตัวหนังยังคงเนิบช้า เรื่อยๆ เอื่อยๆ ตามสไตล์ Ghilib ซึ่งถ้าชอบก็ชอบไปเลยแต่ถ้าไม่ชอบก็จะเข็ดเลยเช่นกัน

สิ่งที่ผมสงสัยระหว่างดูจบ “เจ้าหญิงคางูยะนั้นจริงๆ แล้วต้องการอะไรกันแน่?” แม้ว่าในหนังจะดูเหมือนเธอโหยหาชีวิตชนบทแบบที่เคยอยู่ในวัยเด็ก แต่พอมานึกไปนึกมาผมว่าสิ่งที่เธอต้องการจริงๆ คือ “ชีวิตที่มีอิสระ” มากกว่า นั่นคือชีวิตที่เธอมีค่ามากกว่าที่จะเป็นสมบัติของใคร, ชีวิตที่เธอแสดงออกในสิ่งที่เธอต้องการได้, ชีวิตที่เธอมีอิสระที่จะรู้สึกรัก รู้สึกเสียใจหรือผิดหวัง, ชีวิตที่ไม่ต้องมีกรอบ (ที่เธอดูแล้วเห็นว่าไร้สาระ) มาผูกมัดเธอไว้ ซึ่งมันบังเอิญอยู่ในช่วงชีวิตในชนบทของเธอเป็นส่วนใหญ่ ยิ่งเธอต้องเผชิญกับผู้สู่ขอทั้ง 5 รวมถึงองค์จักรพรรดิ์ มันทำให้เธอรู้สึกว่าถ้ายังอยู่บนโลกนี้เธอจะไม่มีสิทธ์ใช้ชีวิตตามที่เธอหวังได้อีกเลย T^T

สรุป: ควรค่าแก่การไปดูและควรรีบไปดูก่อนจะหายไปจากโรง

ป.ล. ซูเตมารุนี่แม่งเหี้ยจริงๆ เป็นข้อเดียวที่ดูแล้วขัดใจในหนังเลยนะ

สะพายกล้องเที่ยว KL #2.2: พาเที่ยวงาน 100 Doraemon Secret Gadgets Expo

ต่อจากตอนที่แล้วนะครับ (เมื่อไหร่จะจบวะ) ผมก็นั่งรถไฟไปเที่ยวงาน 100 Doraemon Secret Gadgets Expo ที่ห้าง Viva Home ครับ

วิธีไปคือรถที่นั่งไปเป็นรถ LRT นั่งไปสถานี Masjid Jamek ไปเปลี่ยนรถเป็น STS (สายสีเหลือง) แล้วนั่งไปสถานี Miharja ที่อยู่นอกเมืองครับ ซึ่งสายนี้มันแยกไปสองทางก็ต้องดูว่าคันที่มามันไปไหน รถมาค่อนข้างน้อย รอนานพอดู สภาพรถก็เหมือนๆ รถไฟบ้านเรา แต่มี air และไม่มีฝรั่งนั่งเลย พอมาถึงสถานีออกมาจะอยู่ข้างๆ แฟลตจำนวนมาก ไม่มีป้ายบอกว่าไปห้าง Viva Home ยังไงก็ให้เดินทะลุแฟลตไปจะมีสะพานข้าม Highway ตรงไปห้างเลยครับ (เห็นตึกแฝดอยู่ไกลลิบๆ)

KL Trip_day4_49

ผมขึ้นไปตรงชั้นที่เขาจัดงานโดราเอมอนแล้วก็ไปต่อคิวซื้อบัตรเลย รอประมาณ 15 นาทีก็ได้บัตรครับ คือแม้คนจะเยอะ (เด็กๆ เพียบ) แต่ก็เป็นระเบียบดีมากแถวเลยไวหน่อย

KL Trip_day4_52
บัตรราคา 25 RM (250 บาท)

งานนี้คืองานแสดง 100 ของวิเศษของโดราเอมอนครับ ก็คือมีโดราเอมอน 100 ตัวมาถืออุปกรณ์วิเศษพร้อมกับพร๊อพและคำบรรยายเนื้อเรื่องในตอนที่เกี่ยวข้องนิดหน่อย

KL Trip_day4_53
เครื่องท่องกาลเวลาที่เราคุ้นเคย

KL Trip_day4_54
กำเนิดโดราเอมอน

KL Trip_day4_55
สวัสดี

KL Trip_day4_56
ประตูวิเศษ ตรงนี้ต่อคิวถ่ายกันเยอะมากกกก

KL Trip_day4_57
Continue reading “สะพายกล้องเที่ยว KL #2.2: พาเที่ยวงาน 100 Doraemon Secret Gadgets Expo”