The Tale of the Princess Kaguya เป็นหนังเรื่องก่อนสุดท้ายของสตูดิโอ Ghibli กำกับและเขียนบทโดย Isao Takahata ผู้สร้าง My Neighbors the Yamadas ครับ
Animation เรื่องนี้ดัดแปลงจากตำนานพื้นบ้านของญี่ปุ่นเรื่อง “คนตัดไผ่ ” เล่าถึงชายแก่ผู้มีอาชีพตัดไผ่ไปเจอเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ในไผ่ปล้องนึงที่เขาตัด เขาเชื่อว่าเธอคือเจ้าหญิงที่สวรรค์ส่งมาจึงพาเธอกลับบ้านไปเลี้ยงในฐานะลูกสาว ซึ่งเธอก็เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วและมีชีวิตที่มีความสุขดี จนกระทั่งพ่อและแม่ของเธอพาเธอเข้าเมืองหลวงเพื่อไปใช้ชีวิตให้สมฐานะเจ้าหญิงซึ่งทำให้ชีวิตเธอเปลี่ยนไปตลอดกาล
VIDEO
ผมสนใจ animation เรื่องนี้ตั้งแต่เห็นตัวอย่างแล้วครับ คือน่าสนใจตรงที่ภาพเหมือนภาพระบายสีน้ำทั้งเรื่อง ซึ่งพอดูจริงๆ แล้วพบว่างานด้านภาพแบบนี้มันสวยและทรงพลังมากๆ ไม่มีอะไรติดขัดเลย ตัวหนังดูแล้วรู้สึกว่าหนังมันสวยงาม ทรงพลังและเศร้ามากๆ คือไม่ถึงกับอิ่มใจแบบ Spirit Away, Totoro (ถึงจะเศร้าแต่ก็ไม่หดหู่แบบเรื่อง the wind rises ) แต่ดูแล้วรู้สึกชอบมาก นอกจากนี้ตัวหนังยังแสดงให้เห็นถึงวิธีชีวิตและวัฒนธรรมของคนญี่ปุ่นในสมัยโบราณเยอะเลยครับ
ตัวหนังยังคงเนิบช้า เรื่อยๆ เอื่อยๆ ตามสไตล์ Ghilib ซึ่งถ้าชอบก็ชอบไปเลยแต่ถ้าไม่ชอบก็จะเข็ดเลยเช่นกัน
สิ่งที่ผมสงสัยระหว่างดูจบ “เจ้าหญิงคางูยะนั้นจริงๆ แล้วต้องการอะไรกันแน่?” แม้ว่าในหนังจะดูเหมือนเธอโหยหาชีวิตชนบทแบบที่เคยอยู่ในวัยเด็ก แต่พอมานึกไปนึกมาผมว่าสิ่งที่เธอต้องการจริงๆ คือ “ชีวิตที่มีอิสระ” มากกว่า นั่นคือชีวิตที่เธอมีค่ามากกว่าที่จะเป็นสมบัติของใคร, ชีวิตที่เธอแสดงออกในสิ่งที่เธอต้องการได้, ชีวิตที่เธอมีอิสระที่จะรู้สึกรัก รู้สึกเสียใจหรือผิดหวัง, ชีวิตที่ไม่ต้องมีกรอบ (ที่เธอดูแล้วเห็นว่าไร้สาระ) มาผูกมัดเธอไว้ ซึ่งมันบังเอิญอยู่ในช่วงชีวิตในชนบทของเธอเป็นส่วนใหญ่ ยิ่งเธอต้องเผชิญกับผู้สู่ขอทั้ง 5 รวมถึงองค์จักรพรรดิ์ มันทำให้เธอรู้สึกว่าถ้ายังอยู่บนโลกนี้เธอจะไม่มีสิทธ์ใช้ชีวิตตามที่เธอหวังได้อีกเลย T^T
สรุป: ควรค่าแก่การไปดูและควรรีบไปดูก่อนจะหายไปจากโรง
ป.ล. ซูเตมารุนี่แม่งเหี้ยจริงๆ เป็นข้อเดียวที่ดูแล้วขัดใจในหนังเลยนะ