สรุปทริปคุนหมิง

เมื่อวันที่ 5 ธันวาคมถึง 14 ธันวาคมที่ผ่านมา ผม backpack ไปเที่ยวมณฑลยูนนานในประเทศจีนกับเพื่อนอีก 2 คนมาตั้ง 10 วันครับ ก็ไปหลักๆ อยู่ 5 เมืองคือเมืองฮุ่ยเจ๋อ, ตงชวน, ต้าลี่, ลี่เจียงและคุนหมิงเป็นหลัก เป็นการเที่ยวจีนครั้งแรกของผมด้วยครับ

IMG_20141214_204611

IMG_20141214_203356

  • วันที่1: 5 ธันวาคม
    • นั่งเครื่องหางแดง (ตั๋วโปร) ไปลงคุนหมิง (昆明) แต่ Flight delay ไปชั่วโมง -*-
    • นั่ง taxi ไปสถานีขนส่งสายเหนือ (北部汽车客运站) แล้วนั่งรถต่อไปเมือง Huize (会泽县)
    • walk in หาโรงแรม ได้โรงแรมอะไรสักอย่างๆ ใกล้ๆ ขนส่ง จำได้แค่ว่า Wifi ชื่อ “Mr Shen”
    • เดินเที่ยวเมืองโบราณฮุ่ยเจ๋อ
  • วันที่2: 6 ธันวาคม
    • เช่ารถเหมาไปทุ่งหญ้าฮุ่ยเจ๋อ (Da Haichao Shan)
    • กลับมาฮุ่ยเจ๋อเพราะคนขับรถแม่งโกง (คือเหมาไปหงตู้ตี้แต่มันไม่ไป มาส่งฮุ่ยเจ๋อเฉยเลย)
    • นั่งรถบัสไปเมือง ตงชวน (东川区)
    • มีคนจีนใจดีพาไปอีกบขสที่มีรถไปเมืองหงตู้ตี้แล้วขับรถพาเราไปตระเวนหาโรงแรม (จำชื่อโรงแรมไม่ได้ล่ะ)
  • วันที่3: 7 ธันวาคม
    • นั่ง taxi ไปบขสแล้วนั่งรถบัสไปเมืองหงตู้ตี้ (红土地)
    • บขสขับไปปล่อยหน้าโรงแรมนึง ก็พักโรงแรมนั้นแหละ พนักงานบริการดีมากแม้จะคุยกันไม่รู้เรื่อง
    • เหมาเจ้าของโรงแรมขับพาเที่ยวนาขั้นบันไดระดับ “อลังการ” ใน Hongtudi Scenic Area (红土地风景区) หรือที่รู้จักกันในชื่อ Dongchuan Red Land
  • วันที่4: 8 ธันวาคม
    • เหมาเจ้าของโรงแรมขับรถมาส่งที่สถานีขนส่งสายตะวันตก (西部汽车客运站) เมืองคุนหมิง
    • นั่งรถบัสไปเมืองต้าหลี่ (大理市) ใช้เวลา 5 ชั่วโมง
    • เข้าพักที่ Jade Emu Hostel ที่นี่ดีมาก net เข้า service ที่จีน block ไว้ได้หมด แนะนำเลย
  • วันที่5: 9 ธันวาคม
  • วันที่6: 10 ธันวาคม
  • วันที่7: 11 ธันวาคม
    • ตื่นแต่เช้ามืด นั่งรถไปภูเขาหิมะมังกรหยก (玉龙雪山)
    • ปรากฏว่าเคเบิ้ลแม่งปิด คนอื่นในรถ (ไม่ใช่พวกผม) เลยโวยวายให้กลับ -*-
    • เดินเที่ยวเมืองโบราณลี่เจียงยามเช้า
    • ไปสระมังกรดำ (黑龙潭)
    • กลับมาคุยเรื่องคืนเงิน ปรากฏว่าแม่งคืน 350 หยวน หักค่ารถไปตั้ง 100 หยวน แม่ย้อยยยยยยยยยย
    • เดินเที่ยวเมืองโบราณลี่เจียง
  • วันที่8: 12 ธันวาคม
    • เหมารถที่โรงแรมติดต่อให้ไปภูเขาหิมะมังกรหยกแต่เช้า วันนี้เปิดทำการ นัดคนขับรถไว้บ่ายโมง
    • ลงจากเข้าแล้วเผลอนั่งรถ bus ไปเที่ยว Blue Moon Valley ทะเลสาปน้ำสีเหมือนหยกในเขตภูเขาหิมะต่อ
    • ลงมา 4 โมง คนขับรถกลับไปแล้ว!!!
    • โทรหาโรงแรม เขาส่งรถคันใหม่มารับก็จ่ายเงินที่คนนี้แหละ
    • กินข้าวเย็นในเมืองโบราณลี่เจียง
    • นั่งรถ taxi ไปบขส แล้วนั่งรถนอนไปเมืองคุนหมิง (ไม่หลับทั้งคืน -*-)
  • วันที่9: 13 ธันวาคม
    • ถึงเมืองคุนหมิง (昆明) ตั้งแต่ตีสี่หนาวเหี้ยๆๆๆ ก็นอนในบขสนั่นแหละ
    • นั่ง Taxi ไป The Hump Hostel (昆明驼峰客栈青年旅舍) ในราคา 40 หยวน ปรากฏว่า Hostel ยังไม่เปิด (พนักงานกะเช้ายังไม่มา) ยืนรออยุ่สักพักถึงมาเปิด เข้าไปก็ยัง check in ไม่ได้เพราะคนพักยังไม่ออกเลยฝากกระเป๋าไว้ก่อน
    • นั่งรถบัสสาย K9 ไปสุดสายที่สถานีขนส่งสายตะวันออก (西部汽车客运站) เมืองคุนหมิง (东部汽车客运站)
    • นั่งรถจากบขสไปอุทยานป่าหิน (石林)
    • กลับคุนหมิง check in hostel แล้วนั่งชิว
  • วันที่10: 14 ธันวาคม
    • ตื่นสายๆ กินข้าว ออกไปเดินเล่น
    • นั่ง Taxi ไป Kunming Changshui International Airport (昆明长水国际机场) ในราคาเหมา 120 หยวน (แต่มิเตอร์ 85 หยวนเอง)
    • คิวตมกับสแกนกระเป๋ายาวและนานเชี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยๆๆๆๆๆ
    • เข้า gate ได้แม่งเปลี่ยน gate แบบไม่ประกาศอีก
    • นั่งเครื่องหางแดงกลับสู่ประเทศไทยโดยสวัสดิภาพ

IMG_20141209_215532

IMG_20141209_215717

สำหรับผมแล้วจุดเด่นของแต่ละเมืองที่ไปเที่ยวในทริปนี้ (มณฑลยูนนาน) คือวิวทิวทัศน์ที่สวยงามในระดับอลังการโคตรๆ ครับ คือมีเทือกเขาที่ใหญ่โตระดับนั่งรถเป็นชั่วโมงยังไม่พ้นมันเต็มไปหมด แล้วมีเมืองใหญ่ๆ อยู่ในที่ราบระหว่างภูเขาและมีเมือง/หมู่บ้านเล็กๆ กระจายตัวอยู่ตามยอดเขาต่างๆ เต็มไปหมด เรียกได้ว่าแค่ชมวิวระหว่างนั่งรถบัสระหว่างเมือง (อันแสนจะทรมาน) ก็อึ้งแล้วว่าวิวประเทศเขาจะสวยไปไหน

20141206_113442_1

20141212_115302

20141207_165302_1

สิ่งที่ขึ้นชื่อของจีนคือห้องน้ำ ก็ต้องบอกว่าตามเมืองใหญ่ๆ อย่างต้าลี่/ลี่เจียง/คุนหมิงนี่ห้องน้ำค่อนข้องโอเค คือเป็นโถส้วมแบบปกติหรือแย่หน่อยก็โถนั่งยอง แต่ถ้าตามจุดพักรถหรือปั้มระหว่างเมืองนี่ก็เป็น “ส้วมราง” ที่ขึ้นชื่อล่ะครับ ผมเจอตั้งแต่วันแรกเลยคือเป็นส้วมรางมีที่กั้นๆ แค่ด้านข้าง ไม่มีประตูปิด คนนั่งขี้ก็นั่งหันหน้าออกหรือหันข้างพิงผนังไป – -” (เจอบางที่เป็นส้วมรางที่สะอาดโคตรๆ ก็มีนะ) บางทีก็เป็นส้วมหลุมแบบขุดหลุมขี้ไว้แล้วเอาปูนที่มีรูตรงกลางมาวางทับไว้ก็มี ผมเองไม่ได้ใช้บริการส้วมรางเลยครับ ไปฉี่ข้างๆ เฉยๆ อ้อ ห้องน้ำเขาไม่มีที่ฉีดก้นนะ เรื่องขี้นี่ก็มีเห็นพ่อแม่ให้ลูกเล็กๆ ขี้บนถนนบนทางเท้าอยู่ประปรายเหมือนกันนะ

พวกเมืองใหญ่ๆ ต่างก็เห็นได้ชัดว่าเจริญโคตรๆ เฉพาะตรงกลางๆ เมือง ถนนกว้างมากกกกกกกกกกกก แต่ออกนอกเมืองไปแล้วเห็นชัดว่าต่างกันเยอะอยู่ แถมยังมีการก่อสร้างขยายเมือง (โดยเฉพาะคอนโด) ออกไปเยอะมาก (ใช่ซี่ประเทศมึงที่เยอะ) ทำให้บางเมืองหรือบางหมู่บ้านนี่ฝุ่นก่อสร้างตลบไปทั้งเมืองเลยครับ

IMG_20141214_203637

การเดินทางระหว่างเมืองจะว่าสะดวกก็สะดวกตรงที่มีรถบัสไปเมืองต่างๆ เยอะมาก (และคนจีนก็นั่งเยอะมาก) พวกเมืองใหญ่ๆ จะมีขนส่งหลายที่แยกไปเลยไปไหนต้องไปขึ้นบขสไหน แต่จะว่าไม่สะดวกก็ตรงที่มันมีทั้งรถบัสอย่างดีจนไปถึงรถสภาพโทรมๆ นั่งเบียดกันเข่าชิดทั้งคนนั่นแหละครับ ถนนหนทางเขาก็มีทั้งที่เรียบเนียนๆ จนไปถึงที่ฝุ่นก่อสร้างคลุ้งทั้งถนนเหมือนกัน สำหรับรถนอนนี่บอกตรงๆ ว่าผมนอนไม่หลับนะ เหยียดขาสุดก็ไม่ได้ด้วย T^T สิ่งที่แปลกใจก็คือคนจีนบ้าล้างรถมากครับ ขับๆ ไปต้องมีจอดล้างรถกันเกือบทุกครั้งที่ข้ามเมืองเลยทีเดียว

สิ่งที่ลำบากที่สุดในทริปนี้คือการสื่อสารครับ คือส่วนใหญ่ที่เจอพูดและอ่านภาษาอังกฤษไม่ได้เลย บางทีเขียนเป็นตัวเลขจีนตอบมาด้วยก็มี -*- แถมพอพูดภาษาอังกฤษใส่แล้วเดินหนีไม่ยอมช่วยเลยก็มี วันแรกๆ ผมโหลด Google Translate แบบ offline จีน-อังกฤษไป ไม่ช่วยในแง่เขาสื่อสารกลับมาเท่าไหร่ จนกระทั้งวันที่สามที่พนักงานโรงแรมลองกดใช้ hand writing ของ Note II เป็นภาษาจีนได้นี่แหละชีวิตวันหลังๆ ถึงได้สบายขึ้นบ้างระดับนึงเพราะเขาสื่อสารกลับมาได้แล้ว

สิ่งที่ทำให้เสียความรู้สึกที่สุดตั้งแต่วันแรกๆ คือโรงแรมที่ walk in เข้าไปในเมืองที่ไม่ใช่เมืองท่องเที่ยวนักอย่างฮุ่ยเจ๋อ, ตงชวนปฏิเสธไม่ให้พวกผมเข้าพักตั้งแต่เห็น passport นี่แหละครับ คือก็ไม่รู้ว่าทำไมพอเป็นคนต่างชาติถึงไม่ยอมให้เข้าพัก แถมยังงงระหว่างไทกั๋ว (Thailand) กับไต้หวันอีกต่างหาก แต่คนจีนดีๆ ที่ช่วยเราตลอดทางก็มีเยอะนะครับ

20141207_135957

อาหารจีนเท่าที่กินก็เน้นมันๆ เค็มๆ เผ็ดๆ (แบบพริกเผา) ครับ พวกของกินเล่นทุกอย่าง (รวมไปถึงขนมจีบ) จะราดพริกเผาแล้วโรยพริกป่น (ไม่เผ็ดมาก) ทุกอย่าง บะหมี่จะมันๆ เลี่ยนๆ หน่อย ส่วนเมืองต้าหลี่กับลี่เจียงจะชอบกินหม้อไฟมาก เมนูทุกอย่างจะเป็นภาษาจีนล้วน พวกผมก็ใช้วิธีชี้เอาของโต๊ะอื่นหรือเดินเข้าครัวไปชี้วัตถุดิบแล้ววัดดวงว่าเขาจะทำอะไรมาให้เรากิน บางทีพอแม่ค้ารู้ว่าเป็นคนต่างชาติก็เลือกให้เลยว่ากินอะไรก็มี พวกอาหารราคาก็ไม่แพงมาก (ในลี่เจียงกับคุนหมิงจะแพงกว่าเมืองอื่น)

Internet ในเมืองจีนก็มี wifi ให้ใช้กันทั่วไปครับ (ผมไม่ได้ซื้อ sim) เนตจีนโดยทั่วไปจะ block ทุกอย่างของ google, facebook, twitter, instagram และ line หมด เราจะได้แต่ notification แต่สื่อสารกลับไม่ได้ ทำให้การดูแผนที่หรือวางแผนเที่ยวต่างๆ ระหว่างวันลำบากพอดู

สำหรับคนจีนก็ถ้าเจอจำนวนน้อยๆ หรือเจอทั่วไปก็ไม่มีปัญหาอะไรนะครับ ก็ปกติดี แต่ถ้าเจอเยอะระดับทัวร์นี่ก็เกรียนใช้ได้เช่นกัน ซึ่งจีนเนี่ยเที่ยวจีนกันเองเยอะมากกกก ผมเจอทั้งทัวร์ทั้งเที่ยวเองนอนกันเต็ม hostel เลย ก็พอจะเข้าใจว่าคนประเทศเขาเที่ยวกันเองขนาดนี้คนเลยไม่จำเป็นต้องใช้ภาษาอังกฤษเพื่อรับมือกับนักท่องเที่ยวต่างชาติสักเท่าไหร่นัก

20141212_121752

ทริปนี้จัดว่าเป็นทริปที่ฉิบหายวายป่วงที่สุดที่เคยเที่ยวมาครับ คือเตรียมตัวไปรับหนาวไม่ดีเลยเป็นหวัดตั้งแต่วันที่ 3 กลับมาจนบัดนี้ยังไม่หายเลย แถมยังโง่ทำของที่เช่ามาหายอีก ยิ่งบวกกับการที่คุยกับเขาไม่รู้เรื่องแล้วเจอเรื่องโรงแรมปฏิเสธไม่ให้พักก็เลยรู้สึกแย่ไปกันใหญ่

แต่ถ้าถามว่าสนุกไหม มานึกย้อนดูก็สนุกล่ะครับ ถ้าถามว่าเที่ยวเองง่ายไหมก็ถ้าคุณไปแค่เมืองท่องเที่ยวใหญ่ๆ อย่างคุนหมิง-ต้าหลี่-ลี่เจียงก็คงจะง่ายกว่าเมืองเล็กๆ อย่างฮุ๋ยเจอ-ตงชวน-หงตู้ตี้ (ซึ่งวิวมันก็สวยมากกกกก) แหละ แต่ก็ไม่ง่ายแบบเที่ยวญี่ปุ่นหรือฮ่องกงเองอะไรทำนองนั้น

สำหรับผมถ้าจะแนะนำเรื่องการไปเที่ยวจีนโดยไม่มีคนรู้ภาษาจีนไปด้วยผมว่ายอมเสียเงินซื้อทัวร์เหอะ สมัยนี้ถูกลงเยอะแล้ว 5555555555555555

ป.ล. ไปเที่ยว 10 วันช้เงินไป 3308.5 หยวนหรือ 17634.305 บาท (ไม่รวมค่าเครื่องบิน)

3 thoughts on “สรุปทริปคุนหมิง

  1. FYI
    ที่โรงแรมบางที่ไม่ให้เข้าพัก เพราะเค้าไม่มีใบอนุญาตรับนักท่องเที่ยวต่างชาติค่ะ ถ้าเค้ารับก็คือทำผิดกฏหมาย และถ้าโดนจับขึ้นมานี่ปรับอาน

    ใจเค้าใจเรานะค่ะ

Leave a comment

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.