สรุปทริปเชียงใหม่

เมื่อวันที่ 23-27 ตุลาคมที่ผ่านมา ผมไปเที่ยวเชียงใหม่มาครับ จริงๆ คือมีงานแต่งงานเพื่อนวันที่ 26 แต่ผมเห็นมีวันหยุดยาวเลยถือโอกาสลางานเที่ยวมันตั้งแต่ 23 เลย

• วันที่ 23 ตุลาคม:
  • นั่งเครื่องนกแอร์ไปจากดอนเมืองถึงเชียงใหม่ 8 โมง
  • ไอ้ @kengggg ขับรถมารับ พาไปกิน ข้าวมันไก่เกียรติโอชา อร่อยดี แล้วพาไปซื้อซาลาเปาในตำนานแล้วพาผมไปส่งโรงแรมตรงประตูท่าแพ
  • ตระเวนไปทั่วย่านท่าแพครับ ก็มีวัดพันอ้น, วัดสำเภา, วัดพันเตา, วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร, วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร มีแวะร้านกาแฟอาข่าอาม่าด้วย อร่อยดี
  • ย้อนกลับไปเส้นถนนพระปกเกล้า ไปวัดดวงดี แล้วไปไหว้พระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์
  • เดินเล่นรอบคูเมือง ฝนเสือกตกหนัก เละเทะไปครึ่งตัวเลยครับ
  • ไปกินร้าน Chez Marcoครับ อยู่ถนนเคราะห์ลอยใกล้ๆ ประตูท่าแพนี่เอง แต่ Google แม่งพาเดินไปไนท์บาซ่าซะงั้น แสรดดดดดด
  • ฝนตก กลับโรงแรม
• วันที่ 24 ตุลาคม:
  • นั่งรถแดงไปคิวรถหน้า มช เหมารถไปโปรแกรม พระธาตุดอยสุเทพ – พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ – ดอยปุย
  • ปรากฏว่าอยู่คนอื่นในทัวร์เปลี่ยนใจไม่เอาแบบไปกลับ ผมเลยเปลี่ยนโปรแกรมเป็นแค่เที่ยวพระตำหนักภูพิงค์ – ดอยสุเทพแทน
  • เที่ยวพระตำหนักภูพิงค์
  • เที่ยวพระธาตุดอยสุเทพ (ขาขึ้่นเดิน ขาลงลงลิพท์)
  • ให้รถมาส่งหน้าสวนสัตว์เชียงใหม่ แล้วเที่ยวสวนสัตว์เชียงใหม่ต่อ
  • เดินห้างเมญ่า
  • เดินและหาอะไรกินย่านถนนถนนนิมมานเหมินท์
  • กลับมาเดินเล่นแถวประตูท่าแพ มีพวกดนตรีเปิดหมวกพอดี
• วันที่ 25 ตุลาคม: (โปรแกรมเหมือนเมื่อวานเด่ะๆ)
  • หาข้าวเช้ากินที่ประตูเมืองเชียงใหม่ (แถวๆ ถนนวัวลาย)
  • นั่งรถแดงไปคิวรถหน้า มช อีกรอบ หารถไปดอยปุยแต่ไม่มี มีแต่ขึ้นไปดอยสุเทพก็ไปดอยสุเทพ
  • รอรถอยู่เกือบๆ ชั่วโมงจนพวกที่มาแค่ดอยสุเทพมันขึ้นลงมาได้รอบนึงแล้วไปพร้อมมันนี่แหละ
  • เที่ยวดอยปุยอยู่ชั่วโมงกว่าๆ จนฝนตก ใช้เวลาหารถลงมาภูพิงค์อีกประมาณ 30 นาที
  • ลงรถที่ภูพิงค์แล้วได้รถลงมาดอยสุเทพเลย ก็ขึ้นไปถ่ายรูปบนดอยสุเทพใหม่ (ขึ้นลงบันได)
  • ลงมานิมมาน เดินเล่น กินข้าวร้านต๋อง เต็ม โต๊ะ (Northern Thai cuisine)
  • กลับมาท่าแพ มีฟรีคอนเสิร์ตพอดี เลยนั่งดูและถ่ายรูปจนดึก
• วันที่ 26 ตุลาคม:
  • ตื่นเช้าไปกาดวโรรส ซื้อของฝาก + หาอะไรกิน
  • กลับมาท่าแพ เที่ยว 3 พิพิธภัณฑ์คือ หอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่–หอประวัติศาสตร์เมืองเชียงใหม่-พิพิธภัณฑ์พื้นถิ่นล้านนา
  • เดินเที่ยว หาของกินแถวๆ นั่นแหละ
  • ไปกาดสวนแก้ว
  • ไปงานแต่งงานเพื่อน
  • กลับมาเดินถนนคนเดินท่าแพ
• วันที่ 27 ตุลาคม:
  • ตื่นเช้าสนามบินเชียงใหม่ โบกรถแดงไป ต่อได้ 80 บาท
  • นั่งนกแอร์กลับมาถึงดอนเมือง
  • รอ taxi นานมากกกกกกกกกกกกกกกกก กว่าจะได้รถ
  • นั่งรถกลับบ้าน เที่ยงกว่าๆ ออกไปทำงานต่อ -*- ก็จบทริปแค่นี้แหละ

ทริปนี้เป็นการเที่ยวเมืองไทยคนเดียวครั้งแรกของผมและถือว่าเป็นทริปลุยเชียงใหม่จริงจังครั้งแรกด้วยครับ (ก่อนหน้านี้มีแต่ได้เที่ยวแค่นิดๆ หน่อยๆ) จุดประสงค์หลักของทริปนี้นอกเหนือจากมาร่วมงานแต่งงานเพื่อนก็คือมาดูหมีแพนด้าครับ คืออยากเห็นหมีแพนด้าตัวเป็นๆ แค่นี้แหละ ซึ่งก็ได้เห็นแบบจุใจเลย

ส่วนตัวแล้วเมืองเชียงใหม่ผมว่าเป็นจังหวัดที่มีที่เที่ยวค่อนข้างครบทุกแนวนะครับ คือจะเป็นสายธรรมชาติก็ได้ (มีตั้งหลายดอย หลายภูเขา), สายประวัติศาสตร์-วัฒนธรรม (เมืองเชียงใหม่มีอายุตั้ง 700 ปี เก่ากว่ากรุงเทพเยอะะะ) อารมณ์แบบมีตึกมีอาคารสมัยใหม่อยู่ข้างๆ โบราณสถานทำนองนี้) , สายช้อปปิ้งก็ได้, แนวสายเที่ยวชิวๆ ก็ได้เพราะร้านอาหารและร้านกาแฟเพียบหรือจะไปแนวเมาก็ได้เพราะผับ/บาร์และที่เที่ยวกลางคืนเยอะมากกกกกกก แต่ถ้าจะเอาเที่ยวห้างก็มีน้อยหน่อยนะครับ

การเดินทางผมเน้นรถแดงเป็นหลักเพราะขี้เกียจขับรถและหาที่จอดรถซึ่งมันคือความผิดพลาดขั้นร้ายแรงของทริปนี้เพราะว่ารถแดงเชียงใหม่นั้น “เหี้ยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก” คือเรียกราคาฟันกันเห็นๆ ลูกตุกติกขึ้นราคาก็เพียบ กว่าผมจะตั้งตัวได้ก็วันท้ายๆ เลย ทำให้ที่เที่ยวหลายๆ ที่ที่มันไกลๆ ผมไม่ไปเลยครับ โดนเรียกราคาแพงแน่ๆ ส่วนตัวแล้วผมว่าการเดินทางในเชียงใหม่เนี่ย ถ้าไม่ขับรถเองหรือเช่ารถตู้เอานี่แม่งโคตรลำบากเลย

อาหารการกินก็อร่อยดีครับ ร้านกาแฟร้านเค้กก็มีเพียบให้กินกันได้จุใจไปเลย แต่ก็จะรู้สึกแปลกๆ เวลาถามคนเชียงใหม่เขาจะบอกว่าร้านที่คนกรุงเทพกินกันคนเชียงใหม่เขาไม่กินกันหรอก เขาไปกินร้านทีผมก็ไม่รู้ว่าจะไปยังไงเหมือนกันซะงั้น หลายร้านๆ ที่เขาว่าอร่อยไปเที่ยงนี่ไม่ได้กินนะครับ ของหมดซะงั้น ;___; ผมเลยพลาดร้านที่คนเต็มๆ ร้านไปเยอะเลย

สรุปทริปนี้ก็เป็นอีกทริปที่ประทับใจเพราะไม่ได้วางแผนอะไรมาเลยแถมเจอเรื่องป่วนๆ จนผิดแผนตั้งแต่วันแรกไปยันเกือบวันสุดท้ายเลย บางอย่างไม่เป็นไปตามแผนแต่ก็ได้เจออะไรดีๆ แทนทำให้นึกถึงทริป backpack ทริปแรกเมื่อหลายปีก่อนที่มันก็ฉิบหายวายป่วงประมาณนี้เลย ก็สนุกดีครับ

ถ้ามีโอกาสก็คงไปอีกเพราะมีที่เที่ยว (โดยเฉพาะที่ไกลๆ ขึ้นดอยทำนองนี้) ยังไม่ได้เที่ยวอีกเยอะ แต่คงเช่ารถหรือเช่ารถตู้ให้ขับให้ล่ะครับ ^^