หลังจากกลับมาจาก 1 Day trip เราก็กลับมาถึงห้องแบบเหนื่อยๆ อาบน้ำอาบท่า นอนกลิ้งไปกลิ้งมาสักพักแล้วก็ออกไปเดินเล่นวังเวียงยามหัวค่ำกันครับ
วิวจากห้อง
ออกมาตอนเย็นๆ รถในถนนเพียบครับ ทั้งรถของชาวบ้านและของนักท่องเที่ยวที่ขี่มอไซไปมา
เช ยังไม่ตาย
เดินๆ ไปหิวเลยไปกินโรตีแถวๆ หน้าโรงพยาบาลวังเวียง โรตีที่นี่มีเครื่องให้ใส่เยอะมาก มีแบบใส่กะทิด้วย งงว่าจะเป็นไงก็เลยลองสั่งมา ปรากฏว่าแม่ค้าเอาผงกะทิโรยหน้ากันแบบดิบๆ นั่นแหละ
บรรยากาศเมืองวังเวียงตอนเย็นๆ คึกคักดีทั้งฝั่งที่ชาวบ้านอยู่กับฝั่งนักท่องเที่ยวครับ มีชาวบ้าน นักท่องเที่ยวเดินกันชิวๆ เด็กๆ ออกมาวิ่งเล่น ไม่มีปิดถนนขายของเอาใจคนกรุงแบบบ้านเรา
วันนั้นผมไปเจอปาเก็ตหรือที่เรียกว่าข้าวจี่หรือบ้านเราเรียกว่าขนมปังฝรั่งเศสจนได้ครับ มันก็ขายร้านเดียวกับโรตีนั่นแหละ แต่จะมีเฉพาะร้านฝั่งนักท่องเที่ยวเท่านั้น เป็นขนมปังฝรั่งเศสเอาไปอุ่นในกะทะ ผัดแฮม+ไข่+ไสกรอก+หัวหอมยัด เอาผักกาดรองขนมปังแล้วเอาที่ผัดยัดเข้าไป อรอ่ยโฮกๆ เลิศกว่า Subway หลายเท่านัก
วันนี้เรามากินร้านส้มตำร้านเดียวที่หาเจอครับ คนเยอะมากกกกกกกกกกกจนต้องหยิบน้ำเอง พวกส้มตำ ลาบ ยำอะไรผมว่าเหมือนๆ บ้านเรานะ ไก่ย่างนี่แย่กว่าคือเป็นชินเล็กๆ สับละเอียดๆ มา – -” แต่ปลาย่างบ้านเขาเด็ดมากกก วันที่ไปกินนี่คนไทยแทบจะทั้งร้าน ได้ยินคนไทยสั่ง “ตำไทย” ด้วย – -” เขาก็ทำให้ได้นะเออ
กินข้าวเสร็จก็ออกไปเดินเล่นถนนอีกเส้นที่ขนานกับเส้นริมน้ำครับ มีร้านอาหาร เกสเฮ้า hostel เยอะอยู่เหมือนกัน ราคาถูกกว่าฝั่งติดน้ำเยอะ ถ้าไม่เอาวิวก็น่าสนใจเหมือนกัน
ร้านนี้คนเยอะตลอด
ร้านเกมที่วังเวียง
หมู (สามชั้น) ปิ้ง
หมูกะทะลาว
ท่าฉีดน้ำรถเท่ดี
แม่ค้า
แม่ค้า
เดินไปเดินมาก็เดินลึกออกมาเรื่อยๆ เข้าไปตลาดบ้านเขาครับ ตอนไปถึงตลาดวายไปหมดแล้ว (แน่ล่ะ) แต่มีงานแต่งงานของบ่าวสาวชาวลาวก็เลยเดินไปดูว่าบ้านเขาแต่งงานกันยังไง ก็เหมือนงานแต่งงานตามต่างจังหวัดบ้านเราครับแต่งานบ้านเขาจัดอลังกว่า แขกใส่ชุดจัดเต็มกว่า บรรดาเจ้าภาพจะมาเข้าแถวรอแขกที่หน้างานแล้วไหว้แขกตั้งแต่ตอนเข้างานนั่นแหละ (ตอนแขกไม่มาก็นั่งรอ) มีนักท่องเที่ยวไปยืนๆ ดูอยูด้วยกันเยอะเหมือนกันครับ
บ่าวสาว
เขาตั้งแถวรอแขกกันแบบนี้
อันนี้่น่าจะหวยนะ
ก่อนจะกลับแวะไปเดินเล่นริมน้ำครับ คือมีสะพานไม้ให้ข้ามไปฝั่งตรงข้ามได้ ฝั่งตรงข้ามเป็น resort กระต๊อบที่ติดนาของชาวบ้านเลย น่ามานอนดีเหมือนกัน (แต่น่าจะเต็มเร็วสุดๆ) ไปที่ไปตอนกลางคืนนี่มืดจนไม่เห็นอะไรแล้วครับ – -”
ถ่ายรูปเสร็จก็กลับโรงแรมเพื่อที่จะไปจองต่ออีกคืน (ตอนแรกกะจะเข้าเวียงจันทน์วันถัดมา) แต่เด็กที่โรงแรมกะกลางคืนคุยไม่รู้เรื่อง ฟังไทยไม่ออก eng ก็ไม่ได้ เราก็ฟังลาวมันไม่เข้าใจ ก็เลยขึ้นไปนอนก่อนแล้วค่อยมาคุยกับกะกลางวัน – -”
ก็ขอจบวันที่ 2 ไว้เพียงเท่านี้ครับ