สะพายกล้องเที่ยวฮอกไกโด #1.2: Hakodate ยามค่ำคืน

ต่อจากตอนที่แล้วนะครับ ในที่สุดเราก็มาถึงเมือง Hakodate แล้วก็ลากกระเป๋าไปโรงแรมก่อนเลย โรงแรมอยู่ใกล้ๆ สถานีรถไฟชนิดเดินข้ามถนนก็ถึง


โรงแรมชื่อ Smile Hotel ห้องพักสะอาด พนักงานพูดภาษาอังกฤษได้ดี ห้องน้ำเล็กเหมือนสิงคโปร์

check in เสร็จก็ถามถึง wifi pocket ที่ให้เขามาส่งที่นี่ (แต่เริ่มใช้วันถัดไป) ก็ได้รับของมาในซองพัสดุอย่างดีครับ ผมเลือกใช้บริการของ Global Advance Comm ครับ ครอบคลุมประมาณ 70% ของทริป การตอบคำถามทาง email ก็รวดเร็ว ชัดเจนดีมากๆ


บรรยากาศเมือง Hakodate

เก็บของก็ออกมาสถานีรถเมล์ตรงหน้าสถานีรถไฟเพื่อที่จะไปภูเขา Hakodate ที่สถานีมีป้ายบอกพร้อมว่าจะไปให้ขึ้นรถตรงไหน รถออกกี่โมง ราคาเท่าไหร่ มีเจ้าหน้าที่คอยบริการ แม้จะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้แต่ก็เต็มใจช่วยเราดีครับ


รถเมล์ญี่ปุ่น คล้ายๆ รถร่วมเหลืองบ้านเรา แต่สภาพดีกว่าเยอะ


ตั๋วรถเมล์ญี่ปุ่น


อันนี้สถานีรถราง จะได้ขึ้นในวันถัดไป

นั่งชมวิวไปเรื่อยๆ พอถึงคนขับก็บอกว่ากระเช้า (Ropeway) ลงนี่แหละ (ได้ยินว่า Ropeway ไรสักอย่าง) ก็ลงเลย เจอคนต่อคิวขึ้นกันเยอะมากกกกกกกกก สงสัยทัวร์ลง พวกผมก็ต่อคิวกันไปโดยไม่รู้ว่าต้องไปซื้อตั๋วก่อน โชคดีเพื่อนไหวตัวทันเลยวิ่งไปซื้อตั๋วมาให้ -*-

พอขึ้นกระเช้าได้ก็พบว่ากระเช้ามันใหญ่น่าดูครับ ขนคนได้ทีละเยอะมากๆ แถวที่ต่อคิวเลยเร็วดีแม้คนจะเยอะ พอขึ้นมาด้านบนตกใจเลย เพราะคนเยอะกว่าที่ต่อคิวอีก ได้ยินทั้งเสียงคนญี่ปุ่นด้วยกันเองกะเสียงคนจีน ทัวร์ญี่ปุ่น+จีนถล่มแน่ๆ

จุดชมวิวอยู่ด้านบนสุดครับ พวกผมขึ้นมาช้าไปหน่อยฟ้าเริ่มมืดล่ะ ไม่ทันช่วงโผล้เพล้ (ที่เขาเรียกว่า Twilight อะนะ) วิวข้างบนสวยมากกกกกกกกกกกกก แต่หาที่แทรกไปถ่ายรูปยากมากๆ เพราะคนเต็มไปหมด ปีนรั้วกันชมวิวเลยล่ะ อากาศก็หนาวโคตรๆ ลมก็แรง ไมญี่ปุ่นหน้าร้อนมันหนาวบัดซบงี้วะ


อันนี้โชคดี ได้จังหวะ “ฟ้า” สุดท้ายพอดี


คนข้างบนน่าจะร่ีวมร้อยนะครับ

ยืนหนาวอยู่ข้างบนจนหลงกับเพื่อนพักใหญ่ๆ ก็ตามตัวเพื่อนเจอแล้วลงกันครับ อ้อมีร้านขายของที่ระลึกด้วยนะครับถ้าใครสนใจ พวกผมลงมาข้างล่างก็เดินไปสถานีรถรางที่ใกล้ที่สุดกัน เดินไปประมาณ 15 นาทีได้

สิ่งที่พบระหว่างเดินลงมาคือ 1. เมืองแม่มเงียบมากกกกกกกกก 2. ตอน 3 ทุ่มนี่ร้านเริ้นอะไรปิดหมดแล้ว รถก็แทบไม่มีวิ่ง กริบโคตรๆ เลยครับ!!! ไอ้ร้านข้าวที่ตอนแรกเห็นตอนขามาก็ปิดหมดแล้ว


ถึงสถานีรถรางล่ะ

ที่สถานีจะมีป้ายบอกละเอียดว่าจะไปไหนบ้าง ราคาเท่าไหร่ มีเป็นภาษาอังกฤษด้วยครับ ดูแป๊บนึงก็เข้าใจ

ขึ้นมาบนรถ เราจะขึ้นที่ประตูหลังและลงที่ประตูหน้า “เท่านั้น” ตอนขึ้นเราจะรับตั๋วมา ที่ตั๋วจะเลขบอกครับ แล้วจะมีไฟวิ่งในรถบอกว่าตอนนี้อยู่สถานีอะไร ต่อไปสถานีอะไร ราคาเท่าไหร่ เห็นกันชัดๆ ไปเลย เจ๋งดี นั่งๆ ไปเจอคนญี่ปุ่นแก่ๆ ชวนคุย ก็คุยกันพอรู้เรื่องครับ เจอคนไทยด้วย

การจ่ายเงินจะจ่ายขาลงครับ เอาตั๋วเสียบในเครื่องแล้วหยอดเงินไป ต้องหยอดเงินให้พอดี ไม่มีทอน แต่มีเครื่องแลกเหรียญ สะดวกมากๆ คนขับรถก็บริการดี

ผมจำได้ว่าตรงแถวๆ สถานีรถรางใกล้ๆ โรงแรมมันเป็นห้าง แต่มาถึงห้างก็ปิดหมดแล้ว ตอนแรกกะจัดร้านสะดวกซื้อแถวๆ นั้นแล้ว แต่โชคดีไปเจอร้านอาหารจีนที่ยังเปิดอยู่ รอดตัวไปล่ะมื้อนี้


ร้านนี้ ป้ายเขียนว่าเป็นร้านอาหารจีน แต่ข้างในก็เป็นราเมง ข้าวผัด

Japan_Hokkaido_day1_87
คนกินส่วนใหญ่เป็นพนักงาน office

พนักงานในร้านพูดภาษาอังกฤษได้และเข้าใจภาษาอังกฤษสำเนียงไทยครับ พวกผมสั่ง set 780 เยนเป็นชุดราเมงกับข้าวผัด กินกันไวมากเพราะเหนือยและหิวสุดๆ

เสร็จแล้วกลับเข้าโรงแรม มีเรื่องตลกเล็กน้อยตรงถามพนักงานโรงแรมกะกลางคืนอะไรสักอย่างแล้วเขาอ่าน “C9F” เป็น “ซีคิวเอฟ” … ก็งงกันตั้งนานว่ามันหมายถึงอะไรวะ 5555

ขอจบ entry ญี่ปุ่นวันแรกไว้เท่านี้ก่อนนะครับ

3 thoughts on “สะพายกล้องเที่ยวฮอกไกโด #1.2: Hakodate ยามค่ำคืน

Leave a comment

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.