สะพายกล้องเที่ยวสิกขิม #4.2: สวัสดี Lachung

หลังจากกลับจากไปเที่ยว Chopta Valley เราก็กลับมาหมู่บ้านเดิมเพื่อพักกินน้ำ เข้าห้องน้ำ (ลงลำธาร) นั้นก่อนครับ ระหว่างพักก็ไปเจอเด็กอินเดียหน้าตาจีนๆ น่ารักมากกกกกกกกก วิ่งเล่นอยู่ เลยลงไปเล่นด้วยเลย

สักพักแม่เด็กก็เรียกเข้าบ้าน ผมก็ไปขอแม่เด็กถ่ายรูปอีก จังหวะที่กำลังจะถ่ายพอดีน้องเขาโผล่มาพอดี ก็เลยได้รูปนี้มา ^^

ระหว่างทางติเนชแวะให้เราถ่ายรูปทุ่งดอกไม้ข้างทางนิดนึงด้วยครับ ก่อนจะกลับไปกินข้าวกลางวันที่โรงแรมเดิม อาหารก็เหมือนเดิม+มัสมั่นไก่เพิ่มมา วันนี้ยังมีคู่แขก 2 คนที่มาทัวร์เดียวกันมากินด้วย ระหว่างรอก็ได้ยินเสียงด่ากันล้งเล้งๆ เป็นภาษาอินเดีย ลองโผล่หน้าไปดูปรากฏว่าเป็นแขกคู่นั้นกำลังด่าคนขับรถเขาอยู่จนติเนชซึ่งเป็นคนขับรถผมต้องมาไกล่เกลี่ย -*-

ระหว่างกินข้าวก็คุยกัน ฝ่ายหญิงจำไม่ได้ว่าทำงานอะไร แต่ชายจำได้ว่าเป็นตากล้องมืออาชีพ ทั้งคู่มาจากมุมไบครับ ภาษาอังกฤษชัดมากและยังฟังภาษาอังกฤษแบบไทยๆ ออกเช่นกัน (เมพมาก) เขาเล่าว่าคนขับรถเขานัดไว้ตอนตี 3 ครึ่งแต่มันมาจริงๆ ตี 4 ครึ่ง เลยต้องด่ากันหน่อย แถมบ่นว่าไม่ทำอะไรให้เลย



ระหว่างกินเขาก็อวดรูปที่ๆ เขาไปให้ดู เขาไปอีกที่นึงที่เกือบจะติดเนปาลมั้ง เลย Chopta Valley ไปอีก เป็นลำธารน้ำแข็งที่สวยมากกกกกกกกกกกกกกก แต่เสียดายที่ห้ามคนต่างชาติเข้าไปเด็ดขาด (คนอินเดียจะเข้าสิกขิมก็ต้องทำ permit เหมือนกันนะเออ) ดูรูปที่เขาถ่ายมาแล้วเสียดายโคตรๆ เลยครับ

กินเสร็จ เก็บของแล้วก็ออกเดินทางไปยังเมือง Lachung ครับ นั่งรถยาวขึ้นลงเขาเหมือนเดิม ฝนตกเหมือนเดิม ติเนชเปิดเพลงแขกเสียงดังเหมือนเดิม เวียนหัวโคตรๆ เหมือนเดิม -*-


เด็กๆที่ Lachen

ข้อดีคือทางไป Lachung นั้นถนนดีกว่าจาก Gangtok มา Lachen มากๆ ติเนชเลยได้โอกาสขับเร็วขึ้นเยอะให้หวาดเสียวกันเล่นทั้งรถ สักประมาณ 4 โมงครึ่ง เราก็มาถึงเมือง Lachung เป็นเมืองเงียบๆ คล้ายๆ กับเมือง Lachen ที่เราจากมา เพียงแต่เงียบเหงากว่ามากกกครับ


ลุงแกนำทางไปโรงแรม เกาะรถไปแบบนี้เลย


ชาว Lachung

มาถึงโรงแรม เอ่อ ไม่อยากจะเรียกโรงแรม มันเป็นที่ซุกหัวนอนประมาณ Guesthouse คืนละ 50 – 100 บาทเรา ไม่มีน้ำอุ่น เจ้าของเป็นป้าที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ (แต่คุยคุยสื่อสารกันจนซื้อของกินกันได้ละกันนะ) แถมตอนแรกห้องไม่พอ ต้องไปเจรจาขอห้องเพิ่มอีกต่างหาก งวดนี้พักที่เดียวกับแขก 2 คนนั้นครับ แล้วติเนชก็เข้ามาบอกตอน 5 โมงว่าเด๋วจะมารับไปกินข้าวเย็นตอน 2 ทุ่มนะ …… ไอ้เหี้ย นี่เพิ่ง 5 โมงเย็น !!!


สภาพห้องครับ พัดลมไม่ต้อง แอร์ไม่จำเป็น หนาวเหี้ยๆ อยู่แล้ว

สรุปเราก็ไม่ได้ทำอะไรนอกจากนั่งเมาท์คุยกะแขกคู่นั้น ซื้อขนมเหล้ายาปลาปิ้งมากินกัน แขกผู้ชายเป็นตากล้องมืออาชีพ ส่วนแขกผู้หญิงทำงานบริษัท Texttile ครับ คุยสนุกมากทั้งคู่เลย ได้ลองเหล้า Old Monk ก็พี่แกซื้อมานี่แหละ (แกเล่นผสม Coke แบบ 50 – 50 เลย) คุยกันเรื่องอินเดียหลายอย่าง เช่น กฏหมายในเมืองบังกะลอร์ที่ห้ามเต้นในที่สาธารณะ หรือว่ากฏหมายใหม่ที่ให้เขียนชื่อแบรนด์เนมทั้งหมดเป็นภาษาฮินดีทำนองนี้ ก็แปลกดี คุยไปไฟดับไป สนุกดีพิลึก

พอ 2 ทุ่มก็ไปกินข้าวกันครับ เป็นร้านอาหารเล็กๆ ก่อนถึงโรงแรม อาหารแม่งก็เหมือนเดิมทุกอย่าง ไม่มีอะไรเปลี่ยน ไม่อร่อยเลยด้วย โชคดีมีพี่คนนึงพกปลากระป๋อง หอยลายกระป๋องไปด้วย ช่วยได้เยอะเลย ^^

กลับมานั่งคุยกันต่อสักพัก ผมก็ขอตัวไปนอนครับ อากาศหนาวๆ แบบนี้ก็เดาได้ว่าไม่ต้องอาบน้ำ แค่แปลงฟันน้ำก็เย็นจนปากสั่นแล้ว แถมยังต้องใส่เสื้อยัดเข้าไปอีก 1 ตัวกะใส่ถุงนอนก่อนจะห่มผ้านวมอีก 555

ก็ขอจบวันที่ 4 ของทริปสิกขิมไว้เพียงเท่านี้ครับ

2 thoughts on “สะพายกล้องเที่ยวสิกขิม #4.2: สวัสดี Lachung

Leave a comment

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.