Review: Samsung Galaxy Note II

ผมซื้อและใช้งาน Samsung Galaxy Note II มาตั้งแต่งาน Thailand Mobile Expo ตอนเดือนกุมภาพันธ์ เบ็ดเสร็จก็ใช้งานมันมาประมาณ 3 เดือนโดยไม่ได้เขียนถึงมันจริงจังเลย -*-

สำหรับเหตุผลที่เลือก Note II ผมเขียนใน entry ที่ผมซื้อมันว่า
– ผมเชื่อว่าปีที่แล้ว ปีนี้และอีก 2 ปีถัดไป Samsung จะยังเป็นผู้ชนะในตลาด Android อยู่ เลือกข้างผู้ชนะดีกว่า
– Cookie หลงป่าไม่ได้รับเงินมาอวยเขียนด่า Note II เยอะอย่างมีนัยะสำคัญ
อีกเหตุผลนึงคือเพื่อนๆ ที่ใช้ Samsung Galaxy S3 กับ Note II คนที่ใช้ Note II ส่วนใหญ่ค่อนข้างจะพอใจ แต่ S3 ส่วนใหญ่จะบ่นๆ ว่ามันแฮงค์ง่ายอะไรทำนองนี้กันเยอะมาก ก็เลยจัด Note II ไปซะ

หลังจากใช้มันมา 3 เดือน ก็ขอเขียนถึงมันหน่อย จะเขียนข้อดีข้อเสียปนๆ กันนะครับ


Note II มันแรงมากๆ เท่าที่มือถือตัวนึงจะแรงได้ ลื่นปื๊ดๆ เลยทีเดียวทั้งการใช้งานทั่วไปและการเล่นเกมโหดๆ มีกระตุกบ้างเป็นบางทีตามกมลสันดาน Android แต่ก็น้อยมากๆ ลื่นกว่า Nexus 7 อีก จอก็ใหญ่สะใจมากกก ดู file vdo 1080p ได้ สีสดใสแบบแปร๋นๆ ตามสไตล์ทีวี Samsung เหมาะแก่การดู MV หรือ live เกาหลีมากๆ ครับ แบตก็อึดดีสำหรับการเล่นเนตแบบปิดๆ เปิดๆ อย่างผม (เนตแค่ 1GB) ตั้งแต่ซื้อมา ผมเอาเสียบแบตกระสือที่ซื้อมาตอน S1 แทบจะนับครั้งได้เลย และด้วยความที่มันเร็ว แรง จอใหญ่ ทำให้ผมใช้ Nexus 7 ลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ

กล้องของมันคุณภาพดีกว่า Galaxy S1 ที่ผมเคยใช้เยอะอยู่ WB ค่อนข้างแม่มเลยล่ะ แต่กล้องจะวัดแสงเองค่อนข้างจะ under ไปสักหน่อย ถ่ายกลางคืนพอรับได้ (review) แต่ต้องถ่ายใน mode low light เท่านั้น แต่คุณภาพ file และรูปโดยรวมผมเชื่อว่ามันยังสู้ iPhone 5, Lumia 920 (แน่นอนไม่ต้องรวมไปถึงมหาเทพกล้องมือถืออย่าง Pureview 808) ไม่ได้แน่นอน ภาพถ่าย Panorama ก็กากเลยล่ะ

งานประกอบมันนี่พลาสติกสไตล์ Samsung โคตรๆ คือเคาะดูแล้วดูกระจอกมาก (แต่งานประกอบแน่นกว่าสมัย S1 นะ) ข้อดีที่พอจะแก้ได้คือตอนนี้ตลาดมือถือ Samsung มันป๊อบมากกว่าแต่ก่อน ทำให้หาเคสได้หลากหลายและง่ายขึ้นเยอะ (แต่ยังคนละชั้นเมื่อเทียบกับตระกูล iOS)

ด้วยความใหญ่ของมัน อีก 1 ข้อเสียที่ร้ายกาจมากคือมันใหญ่มากๆ จนเอาใส่กระเป๋ากางเกงแล้วผมงอขาขึ้นมาตัดเล็บไม่ได้ -*- มันอาจจะเป็นข้อเสียเล็กน้อยในสายตาคนอื่น แต่สำหรับผมมันทำให้พฤติกรรมการเอามือถือใส่กางเกงผมเปลี่ยนไปเยอะเลยนะ จากวางตั้งมาเป็นวางนอนแทน อ้อ มันร้อนกว่า Galaxy S1 ด้วยนะ


ขนาดเมื่อเทียบกับ Nexus 7

ตัว Touchwiz ตัวใหม่นี่ดีกว่าตัวที่ได้มาตอน Galaxy S1 มาก ลื่นขึ้น มี feature เจ๋งๆ มากขึ้น แต่ก็ทำให้ผมที่ใช้ Cynanogen Mod และ Pure Android มาหลายปีต้องปรับตัวมากอยู่เหมือนกัน ส่วนตัวแล้วผมชอบความ simple แต่ปรับแต่งได้เยอะสุดๆ แบบ CM มากกว่าครับ แต่ก็ใช้ Touchwiz บน Note II ได้โดยไม่รู้สึกอะไรนัก

จุดที่ประทับใจโคตรๆ เลยตอนเปิดเครื่องมาคือมันมี app Dropbox มาให้อยู่แล้ว แถม sync กับ account ที่มีอยู่แล้วได้พื้นที่เพิ่มมาอีก 50GB ฟรีๆ เลย แหล่มมากกก

ตอนซื้อมาได้สัก 3 วัน พบว่าในช่องเสียบปากกามีรอยดำๆ อยู่ ไม่รู้ว่าเป็นอะไร แต่เครื่องก็ใช้งานได้ อันนี้เพราะผมพลาดเองตอนซื้อที่ไม่ตรวจดูให้ดี แต่เรื่องนี้ก็คงไม่ใช่ว่าซื้อมือถือ Samsung ยี่ห้อเดียวที่ต้องตรวจ เพื่อนผมซื้อ iPhone 5 ก็เจอ defect แบบนี้ตอนเลือกเครื่อง สุดท้ายได้เครื่องที่ 5 แน่ะกว่าจะจ่ายตังค์

สำหรับ Feature ปากกาที่สาวกอีกค่ายชอบบอกว่า “เกินจริง” บ้าง, “Steve Jobs คิดมาดีแล้วให้ใช้นิ้ว Samsung แม่งโกหก” บ้าง ก็ช่างหัวแม่งเหอะครับ เท่าที่ใช้มามันก็โอเค ผมไม่ได้ใช้งานวาดรูปอะไรเพราะไม่มีฝีมือด้านนั้น แต่ใช้จดโน๊ตแล้วมันเร็วและดีมากๆ เลย ข้อเสียจะมีบ้างก็ว่าเขียนไปถึงขอบขวาแล้วมันจะไม่ค่อยติด+เขียนยากไปหน่อย แต่สรุปแล้วสำหรับผมมันใช้งานได้จริง (ในการจดโน๊ต) อุปสรรคของมันอย่างเดียวคือลายมือคุณเอง

อีก 3 ข้อเสียที่คิดออกคือมันยังไม่เป็น Android 4.2(.2) เสียที, App ที่ Samsung ให้มาหลายๆ App นี่ใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้เลย -*- และแม่งเสือกเป็น Micro Sim สาดดดดดดดดดดด

สรุปแล้วผมชอบและประทับใจ Note II ตัวนี้มากกว่า Galaxy S1 ที่เคยใช้เสียอีกและกะว่าจะใช้มันไปจนกว่ามือถือจะพังเหมือนตอน S1 เช่นเคยครับ ^^

2 thoughts on “Review: Samsung Galaxy Note II

Leave a comment

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.