Love Time @วังน้ำเขียว

ปลายปีที่แล้วมีโอกาสได้ไปถ่าย Pre Wedding ให้เพื่อนที่วังน้ำเขียว (จริงๆ ส่วนใหญ่ก็อยู่แต่ใน resort แหละ) คราวนี้ไปเป็นตากล้องเสริม+ผู้ช่วยตากล้องแบบจริงจัง คือทั้งถ่ายคนละมุมกับตากล้องหลัก, ช่วยตากล้องหลักถือขอ, ยกไฟ, จัดฉาก, ออกไอเดีย, เก็บบรรยากาศ รวมถึงได้สัมผัสการทำงานกับมืออาชีพจริงๆ ด้วย

ครั้งนี้ก่อนถ่ายแต่ละ set มีการคุยกันก่อนว่าอยากจะได้ภาพแบบไหน แต่ละคนใช้เลนส์อะไร มุมไหน จะให้ช่วยส่องไฟ ถือ reflex อะไรแทนมั้ย ทำให้การทำงานของผมกะตากล้องหลักไม่ชนกัน ไม่เหมือนตอนไปช่วย @FordAntiTrust ถ่ายงานพี่ @lawender ที่พลาดไปหลายดอกเลยเพราะไม่ sync กันก่อน

ในฐานะตากล้องเสริมก็ควรเก็บบรรยากาศการถ่ายมาบ้าง ขณะที่ตากล้องหลัก focus กับการถ่ายแบบ เพื่อเอามาเสริมภาพทั้ง set โดยรวม :3

หนึ่งในบทเรียนที่รู้จากครั้งนี้คือ “อย่าลืมน้ำดื่ม” เพราะมีวันนึงที่พลาดไม่ได้สำรองน้ำไว้ ทั้งตากล้องทั้งแบบไม่ได้กินน้ำเลยอยู่ครึ่งวัน เพลียกันมากก ต่อไปคงต้องสำรองน้ำดื่มไว้สำหรับตัวเองและแบบ เพราะยังไงการดื่มน้ำที่เพียงพอมันก็ดีอยู่แล้ว \ w /

รูปนี้ลองใช้ Nikon Creative Lighting System ดู

รอบนี้ยังมีโอกาสได้เป็นตากล้องหลักอยู่ครึ่งวัน -*- งานช้างเลย ไม่เหมือนงานแต่งที่เคยถ่ายเพราะอันนั้นมุมและมุขมันบังคับ แต่นี่คิดมุข คิดมุมไม่ออกเลย ดีที่เพื่อนมีไอเดียในหัวอยู่แล้ว

บางทีก็ต้องลองๆ ไปก่อนว่าถ่ายออกมาแล้ว work มั้ย

บางมุมคิดในหัวว่าเด็ดมาก แต่พลาดตรงจัดแสงผิด – – เลยต้องมาเหนื่อยตอน process กันยกใหญ่ สรุปเรื่องพื้นฐานอย่างการวัดแสง + เรื่องการจัดแสงให้ได้อย่างภาพในหัว (ใช้ไฟเสริม แฟลชเสริม reflex อะไรทำนองนี้) สำคัญมากถ้าคิดจะเป็นตากล้องหลัก ซึ่งผมยังขาดในจุดนี้มาก

อ้อ อีกอย่าง เลนส์มันทำ f มาให้ตั้งแต่ 1.4/1.8 ไปยัน f 22 ก็ปรับใช้ตามความเหมาะสมบ้าง ไม่ใช่ตะบี้ตะบันใช้แม่มอยู่กว้างสุดตลอด หน้าชัดหลังเบลอมันไม่ใช่คำตอบของทุกอย่างหลอกนะ (แต่เจ้าของกล้องมันบอกให้ f1.4 ตลอด มันชอบ ฮ่าๆ)