พาเที่ยวไต้หวัน #5/1 Yehliu Geopark

หายไปนานก็มาต่อกับวันที่ 5 ของทริปไต้หวัน อีกสัก 3 – 4 entry ก็น่าจะจบ (มั้ง) นะ 555
พวกเราตื่นเช้าแล้วก็เก็บของ check out แล้วเอากระเป๋ามาเก็บที่ Locker ใน Taipei Main Station แล้วก็หาทางไป Taipei West Bus Terminal A/B ที่ใช้คำว่าหาเพราะว่าไม่รู้ว่ามันอยู่ที่ไหนทั้งๆ ที่รู้ว่ามันอยู่ติดกับ Taipei Main Station – -” เดินหาอยู่นานก็เจอ (แนะนำให้ออกทาง Z ของ Taipei Main Station) แล้วก็ซื้อตั๋วรถ Bus สาย 1815 ไป Yeliu ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง

หลับๆ ตื่นๆ ไป 2 ชั่วโมง รถก็มาส่งตรงแถวๆ ท่าเรือ มีป้ายบอกว่าจะไป Yehliu Geopark ยังไงก็เดินๆ ตามเขาไป วิธีการลงก็ง่ายๆ เพราะคนขับจะจอดแล้วคนท่าทางเหมือนนักท่องเที่ยวลงเยอะๆ นั่นแหละ


ไฟตกปลาหมึกสินะ


อยู่ไต้หวันตั้งหลายวันเพิ่งเห็น AM PM มีไข่ต้มขายด้วย


แถวนี้อยู่ติดทะเลครับ ร้านค้าส่วนใหญ่ก็ขายอาหารทะเล เห็นราคาแล้วก็ฟันกันเห็นๆ อ่ะ

เดินไปสักพักก็ถึงหน้าที่ทำการอุทยาน ทัวร์จีนมาลงพอดี ที่นี่อุทยานสวนหินรูปร่างแปลกตาที่เกิดจากลมและทะเลกัดเซาะอยู่ริมหาดครับ แนวๆ แพะเมืองผีบ้านเรา แต่ที่นี่อยู่ติดทะเล เสียค่าเข้าแล้วก็เดินตามทางไปได้เลย คนเยอะมากกกกกก


เป็นประมาณนี้ แดดเปรี้ยงเลย
Continue reading “พาเที่ยวไต้หวัน #5/1 Yehliu Geopark”

Wolf Children คู่จี๊ด ชีวิตอัศจรรย์

ผมเห็นตัวอย่างหนังการ์ตูนเรื่อง Wolf Children หรือชื่อไทยว่า “คู่จิ๊ด ชีวิตอัศจรรย์” แล้วนึกอยากดูทันที พอเห็น poster ที่โรงหนังเครือ Apex ก็รีบไปดูเลย มันฉายโรงเดียวเสียด้วย – -*

Wolf Children Poster

หนังเรื่องนี้เล่าถึงชีวิตของนักเรียนทุนอย่าง “ฮานะ” ผู้มีนิสัยยิ้มแย้มและมองโลกในแง่ดีตลอดเวลา เธอพบรักกับชายหนุ่มผู้ลึกลับและรู้ความจริงว่าเขาคือมนุษย์หมาป่า (ที่ควบคุมตัวเองได้ สลับไปคน-หมาได้ดั่งใจ) เธอยอมรับเขาได้และอยู่ด้วยกัน เธอคลอดลูกสาวคนโตวันวันหิมะตกจึงตั้งชื่อเธอว่า “ยูกิ” และต่อมาก็คลอดลูกชายคนเล็กในวันฝนตกจึงตั้งชื่อว่า “อาเมะ” แต่แล้วแฟนเธอดันด่วนจากไปเสียก่อน เธอจึงต้องเลี้ยงดูลูกครึ่งมนุษย์-หมาป่าทั้ง 2 คนตามลำพัง ซึ่งหนังส่วนใหญ่จะเล่าเรื่องชีวิตของเธอและลูกทั้งสอง ผ่านมุมมองของลูกสาวคนโตครับ

หนังการ์ตูนเรื่องนี้เป็นหนังครอบครัว-แฟนตาซีที่ดูแล้วสนุก สวยงาม อิ่มเอม กินใจ อบอุ่นใจมากครับ หนังเล่าเรื่องไปช้าๆ เรื่อยๆ ไม่มีจุดพีคอะไร แต่เล่าเรื่องได้สนุก แฝงความตลกไว้เรื่อยๆ ดูแล้วยิ้มไป ไม่มีจุดไหนที่ผมดูแล้วรู้สึกง่วงๆ หรือหาวเลย เดาเนื้อเรื่องไม่ได้ด้วย มันเป็นหนังไม่กี่เรื่องที่ผมดูที่ Lido แล้วคนเต็มโรงเลยนะ

หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่สมควรไปดูทั้งครอบครัวครับ (มีฉาก R เล็กๆ แต่ช่างมันเหอะ) หนังแสดงให้เห็นความรักของพ่อแม่ได้ดีว่ากว่าจะเลี้ยงลูกจนโตขึ้นมานั้นลำบากแค่ไหน และความรักของพ่อแม่นั้น นอกจากจะรักและห่วงลูกของตนแล้ว ยังต้องยอมรับในทางเดินของลูกและเชื่อมั่นในตัวลูกด้วย

สรุปแล้วเป็นหนังที่ควรไปดูอย่างยิ่ง (ก่อนมันจะออกตามสไตล์หนังเล็ก) แล้วคุณและครอบครัวจะยิ้มอย่างมีความสุขตลอดเวลาที่หนังฉาย

ป.ล. หนังเรื่องอื่นๆ ที่ผมดูแล้วรู้สึกแบบเดียวกันคือ My Neighbor Totoro, Spirited Away และ Wall-E ครับ

Skyfall พลิกรหัสพิฆาตพยัคฆ์ร้าย

Skyfall คือหนัง James Bond หรือ 007 เรื่องที่ 23 แถมยังออกฉายในปีฉลองครบรอบ 50 ปีหนัง James Bond เสียด้วย (นับจาก Dr. No ปี 1962)

Skyfall Poster

หนังภาคนี้เป็นภาคที่ 3 ที่พี่หน้าเหียก Daniel Craig เล่นเป็นบอนด์ครับ เนื้อเรื่องไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับ Casino Royale และ Quantum of Solace เลย เนื้อเรื่องเล่าถึงผู้ก่อการร้าย cyber ชื่อซิลวาที่เก่งกาจขนาด hack เข้าไปใน MI6 ได้ชิวๆ ขโมย HD ที่เก็บข้อมูลสายลับนาโต้ทุกคนที่แทรกซึมผู้ก่อการร้ายอยู่ เขาประกาศจะเปิดเผยข้อมูลนี้สัปดาห์ละ 5 คนและมุ่งเป้ามาที่ M โดยตรง 007 เราซึ่งเพิ่งกลับมาจากการบาดเจ็บจากภารกิจ (โดนพวกเดียวกันยิงพลาดส่องทีเดียวร่วงเลย) ต้องรับหน้าที่ไปจัดการกับซิลวาให้ได้ทั้งๆ ที่ไม่พร้อม

ออกตัวก่อนว่าผมไม่ใช่แฟนของหนัง 007 เท่าไหร่นัก ผมชอบแนวๆ เจสัน บอน, Mission Impossible มากกว่าน่ะครับ คือเคยดูบอนด์แล้วรู้สึกว่าเรื่องมันเฉยๆ ผู้ร้ายเวอร์ๆ เอาแต่จีบสาวชิวๆ ไปครึ่งเรื่อง จะมีชอบก็ Tomorrow Never Dies ของ Pierce Brosnan, License to kill ของ Timothy Dalton และ Casino Royale

ส่วนตัวผมคิดว่าตั้งแต่ Casino มันคือหนัง 007 ที่ปรับตัวให้เข้ากับหนังสายลับสมัยใหม่เพื่อชิงพื้นที่กับหนังสายลับสมัยใหม่ที่ซีเรียส จริงจังขึ้นอย่างตระกูลเจสัน บอนและ MI มันเลยเป็น 007 ที่ค่อนข้างได้ใจคนรุ่นใหม่แต่ขัดใจคอ 007 ยุคเก่าไป ดังนั้น Skyfall เลยเป็นการ “รีบู๊ท 007 รอบที่ 2” เพื่อให้ได้ใจทั้งคนรุ่นใหม่และรุ่นเก่า องค์ประกอบเก่าๆ กลับมาทั้ง Q, สาวสวยที่ตายอนาจ, ของเล่นต่างๆ, action เวอร์ๆ แต่ยังเน้นโทนสมจริง ซีเรียส เน้นความเป็นมนุษย์ปถุชนของบอนด์แบบสมัยใหม่ และหนังเรื่องนีก็ทำได้ดี ดูสนุกด้วยครับ

สิ่งที่ดีที่สุดของหนังเรื่องนี้สำหรับผมไม่ใช่บรรดาเหล่าฉากคารวะ 007 เก่าแบบที่คนหนัง 007 ชอบ แต่กลับเป็นวายร้ายของเรื่องที่แสดงโดย Javier Bardem จาก No country for old men พี่แกเล่นได้โฉดสุดตีนมาก เป็นวายร้ายที่ฉลาดเป็นกรด เก่งขั้นเทพ อำมหิต โฉดแบบนิ่งๆ แค่คำพูดเฉยๆ นี่ก็ขู่ถึงตายได้แล้วครับ (ฉากลูบขานี่ร้องหือออกันทั้งโรง) คือไม่เคยดู 007 แล้วมีวายร้ายตัวไหนเก่งและน่ากลัวเท่านี้เลย มีแต่พวกหัวหน้ามาเฟีย connection เยอะ แต่ไอ้นี่มันเทพจริงๆ แม้ว่าพี่แกจะไม่เทพเท่าที่เคยเล่นเป็นแอนตัน ชิเกอร์ใน No Country ก็ตาม

อีกอย่างที่ผมรู้ตอนอ่านเบื้องหลังก่อนดูคือ Judi Dench ผู้รับบทเป็น M นั้นกระจกตาเสื่อมอาการถึงขึ้นเกือบๆ บอด แต่ยังมาเล่นจนจบเรื่อง นับถือใจของป้าจริงๆ เลยครับ _/\_

สรุปแล้ว Skyfall สนุกดี แนะนำๆ